ขนาดเล็ก
Small Size
‼ทำไม “เพชรพญาธร” ถึงปรากฏอยู่บนมีดหมอได้‼
ด้วยความสงสัยบวกกับความใฝ่รู้ใฝ่เรียนของพระอาจารย์โอ จึงทำให้พระอาจารย์สอบถามกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ว่าเพราะเหตุใดเพชรพญาธรถึงมาปรากฏอยู่บนใบมีดหมอได้ ก็ได้ความว่า รูปลักษณ์ของเพชรพญาธรหรือปลัดขิกที่แสดงถึงอวัยวะเพศชายนั้น เป็นหนึ่งในวิชาของพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ซึ่งว่ากันว่ามีมาก่อนจะมีพระศาสนาเกิดขึ้นมาเสียอีก ในสมัยนั้นผู้คนจะสื่อสารกันด้วยคำบ้านๆที่ถือว่าเป็นคำหยาบๆในสมัยนี้ ตัวอย่างพระเวทย์ดึกดำบรรพ์บทหนึ่ง มีบทคาถาว่า“โอมน้ำหลากไหลแดงมาปังๆ (อวัยวะเพศชาย)ถั่ง(อวัยวะเพศหญิง) แตดอัด แตดอัด” เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆจะเรียกว่าครูในสายวิชานี้ว่า “ครูปู่ครูย่า” คือถ้ากล่าวพาดพิงถึงอวัยวะเพศชาย ก็หมายถึง “ครูปู่” แต่ถ้ากล่าวถึงอวัยวะเพศหญิง ก็หมายถึง “ครูย่า” โดยส่วนมากเกจิอาจารย์ยุคโบราณล้วนแล้วแต่มีคาถาอาคมในสายวิชาครูปู่ครูย่าแทบทั้งนั้น แต่จะเลี่ยงไม่ใช้กันเพราะสังคมสมัยนี้มองว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นคำหยาบคาย หากใครได้ยินก็อาจจะสบประมาทปรามาสครูได้โดยไม่ตั้งใจ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงคราวคับขัน เจอสถานการณ์แบบฟางเส้นสุดท้ายแล้ว เกจิอาจารย์แต่ละท่านต่างก็รอดพ้นจากวิกฤตด้วยวิชาครูปู่ครูย่าแทบทั้งสิ้น
ซึ่งเหตุการณ์คับขันแบบนี้พระอาจารย์โอก็เคยประสบพบเจอด้วยตัวท่านเอง สมัยที่ยังออกจารีกธุดงค์อยู่ พระอาจารย์โอได้เมตตาเล่าให้ฟังดังนี้
"ตอนที่ฉันยังเดินธุดงค์อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร ได้เดินทางไปเรื่อยๆจนถึงเนินมะปราง จ.พิษณุโลก ก็ได้พบกับกลุ่มชาวบ้านในระแวกนั้นระหว่างทาง พอชาวบ้านเห็นฉันก็เข้ามาถามว่าพระอาจารย์จะไปไหนหรือ ฉันก็บอกว่าจะขึ้นไปบนภูโน้นหนะ ชาวบ้านก็พากันมองหน้ากันแล้วบอกว่า “ภูนี้มันแฮงนัก พระอาจารย์เอาของดีติดตัวไปนะ” พอพูดเสร็จชาวบ้านคนหนึ่งก็ฟันกิ่งไม้ข้างทาง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นไม้กระถิน แล้วก็นำมาเหลาแบบหยาบๆ พอมองดูออกว่าคงตั้งใจเหลาให้เป็นรูปปลัดขิก พอเหลาเสร็จชาวบ้านก็ยื่นมาให้ฉันแล้วบอกว่า “พระอาจารย์อย่าลืมเอาไม้อันนีวางไว้ข้างหัวนอนนะ” ฉันก็รับไว้ตามมารยาท ตอนนั้นฉันก็แอบคิดในใจเหมือนกันว่า “มันจะใช่หรือ ทำไมมันง่ายแท้ เสกก็ไม่ได้เสกแล้วมันจะขลังได้อย่างไร” พอฉันเดินทางไปถึงภูดังกล่าว ก็ได้ปักกรดแล้วก็เจริญสมาธิภาวนาตามปกติ ช่วงหัวค่ำก็ไม่มีอะไรหรอก แต่พอถึงกลางดึกเวลาซักตีสองหนะสิ ตอนนั้นฉันก็นอนอยู่ มันมีเสียงแว่วมาว่า “เอามันมั้ยๆ มันมาคนเดียว ไอ้หัวโล้นมันมาคนเดียว เอามันมั้ยๆ” แล้วก็มีเสียงจากอีกคนตอบไปว่า “ไม่น่าจะปล่อยให้มันรอดนะ มันมาครั้งแรกก็ให้มันฝังที่นี่ละกัน” หลังจากนั้นสักครู่หนึ่งก็มีเสียงพูดกันว่า “กูเข้าไปแล้ว มันเป็นคนกตัญญูนะ มันเอาคุณพ่อวางไว้เหนือหัวมันหนา หัวนอนมันมีคุณพ่ออยู่ คุณพ่อคุ้มหัวมัน กูทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้ากูทำไม่ได้ มึงก็คงทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน กินมันไม่ได้ ห่าเนี่ย” พอฉันกำหนดจิตพิจารณาตามดูว่าเสียงสนทนานั้นมาจากใคร ก็ทราบว่าเป็นพวกเทวดามิจฉาทิฏฐิ พวกนี้ไม่ใช่ผีจึงไม่กลัววัตถุมงคลพวกตะกรุด สายสิญจน์ บางตนสวดคาถาตามเราได้ก็มี เทวดามิจฉาทิฏฐิพวกนี้จะเกรงกลัวบารมีครูปู่ครูย่ามาก สรุปคืนนั้นฉันเลยรอดตายมาได้ก็ด้วยบารมีของคู่ปู่ครูย่าที่อยู่ในย่ามที่ฉันใช้นอนหนุนหัวเนี่ยแหละ"
พวกบรรดาพรานป่าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีเวลาไปวัด หรือหาวัตถุมงคลอะไรพกติดตัว พอว่างก็เข้าป่าเขาลำเนาไพรหาพืชผักสัตว์ป่าเลี้ยงชีพ ถึงแม้พวกพรานป่าจะไม่มีคาถาเวทย์มนตร์อะไร แต่เขาอาศัยใจเชื่อเป็นหลัก เวลาพวกพรานป่าไปนอนที่ไหนก็ตาม พวกเขาจะนำไม้มาเหลาเป็นปลัดขิกแล้ววางไว้ข้างหัวนอนเสมอ เป็นเสมือนการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาระลึกนึงถึงครูปู่ครูย่า พวกผีป่า ผีโป่ง ผีมเหศักดิ์ รุกขเทวดา และพวกเทวดามิจฉาทิฎฐิจะทำอันตรายไม่ได้เลย
ที่มาของชื่อ "มีดหมอยามหาเถรตำแย"
ชื่อ “มีดหมอมหาเถรตำแย” มาจากว่าพระอาจารย์โอได้ตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ คือ "ท่านมหาเถรตำแย" ผู้เป็นปรมาจารย์ของ บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ ท่านมหาเถรตำแยได้รจนามนต์ที่ใช้ในการปรุงน้ำมนต์ขึ้นมาบทหนึ่งชื่อว่า “โองการมหาเถรตำแย” ซึ่งขึ้นชื่อมากว่าเป็นมนต์ดึกดำบรรพ์อันทรงฤทธิ์ในการปรุงน้ำมนต์แก้คุณไสย์คุณคน แก้โรคภัยไข้เจ็บ
มีดหมอยามหาเถรตำแยชุดนี้พระอาจารย์โอได้สร้างไว้นานแล้วและปลุกเสกเรื่อยมาพร้อมกับมีดหมอประเภทอื่นๆ สมัยก่อนพระอาจารย์จะเสกมีดหมอหลายๆรุ่นด้วยพระเวทย์ดึกดำบรรพ์จากสายวิชาครูปู่ครูย่า โดยจะไม่ลงยันต์รูป “ครูปู่” ไว้ให้เห็นกันชัดเจนแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมีใช้กันเฉพาะในหมู่ลูกศิษย์เท่านั้น คนที่นำไปใช้ต่างก็เกิดประสบการณ์กันมากมาย
เมื่อเดือนกันยายน 2559 ได้มีพิธีบวงสรวงองค์สมเด็จพุทธะมีเงิน พระอาจารย์โอท่านเห็นว่าองค์พระ, ท้าวจตุโลกบาลและเทพไท้เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทรงเสด็จมาในพิธีกันมากมาย พระอาจารย์โอจึงขอบารมีท่านทั้งหลายเหล่านั้น ช่วยประสิทธิ์ประสาทมีดหมอมหาเถรตำแยและเทพศาสตราต่างๆให้มีความเข้มขลังทรงอานุภาพอย่างที่สุด นอกจากนี้พระอาจารย์โอยังได้อาราธนาพญายมราช ให้ช่วยประสิทธิ์มีดหมอมหาเถรตำแยและเทพศาสตราต่างๆในพิธี ให้เป็น “มหาชาตรี“ เป็นพิเศษอีกด้วย
‼‼องค์ประกอบต่างๆของ “มีดหมอมหาเถรตำแย” จะสุดยอดแค่ไหนมาศึกษาพร้อมกัน‼‼
=[ใบมีด]=
-ถูกหล่อหลอมรีดตีจากของพิเศษสุดจะบรรยาย อาทิเช่น บาตรของพระอาจารย์โอ, ตะปูสัมริดโบราณ, ตะปูตอกโลงศพ,ขวานฟ้า, และศาสตราวุธในสายวิชาธนุรเวท
บนใบมีดทั้งสองด้านจะมีรูปเพชรพญาธรอยู่ ฝั่งหนึ่งเพชรพญาธรจะหันหัวออก เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆให้พินาศไป ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเพชรพญาธรจะหันหัวเข้า เพื่อนำความสวัสดีโสภิณมงคลทั้งหลายให้หลั่งไหลเข้ามาสู่เจ้าของ
อักขระบนใบมีดลงด้วยหัวใจพระเจ้าโองการและพระคาถานิพพานสูตร ทั้ง8บท ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ถึงเคล็ดวิชาของพระคาถานี้ เพราะส่วนใหญ่จะคิดว่ามีแค่4บท เนื่องจากบทที่5ถึงบทที่8นั้นเป็นบทที่ถูกปิดบังซ่อนเร้นไว้ เหตุที่พระคาถานิพพานสูตรมี8บทก็มีนัยยะหมายถึง “อริยมรรคมีองค์8” คือพระนิพพานอันเป็นที่บรมสุขหาที่เปรียบมิได้นั่นเอง เป็นพระคาถาที่ภูติผีให้ความยำเกรงมาก
=[ด้ามและฝัก]=
-ด้ามและฝักทำจากไม้มุจลินทร์หรือไม้จิก ซึ่งเป็นไม้เสาโบสถ์เก่าอายุร่วม200 ปี ผ่านพิธีกรรมมามากมายรวมถึงพิธีพุทธาภิเษกนับไม่ถ้วนทั้งพิธีสมัยสงครามโลกครั้งที่1และ2รวมทั้งพิธีปี2500นับเป็นของศักดิ์สิทธิ์ในตัวค้ำชูพระศาสนาค้ำชูโบสถ์มาร่วม 200ปี ผ่านการทำผาติกรรมมาอย่างถูกต้อง
ต้นจิกหรือมุจลินทร์ถือเป็นไม้มงคลที่แม้แต่ในพุทธประวัติก็มีการกล่าวถึงดังนี้ “หลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ ทรงประทับอยู่ใต้ต้นนิโครธ 7 วัน แล้วเสด็จไปประทับใต้ต้นจิกอีก 7 วัน ในขณะที่ประทับใต้ต้นจิกนี้ ได้มีฝนตกอยู่ไม่ขาดสาย อากาศหนาวจัดมาก มีพญานาคชื่อ "พญามุจลินทร์" เห็นพระพุทธองค์แล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา เกรงว่าพระพุทธองค์จะลำบากและทรมาน จึงทำขดล้อมพระวรกายของพระพุทธเจ้าไว้ 7 รอบ และแผ่พังพานปกคลุมพระเศียร ดูคล้ายเป็นเศวตฉัตรช่วยกันฝนและช่วยให้บริเวณนั้นอบอุ่นขึ้น”
ด้ามมีดอุดด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมายที่พระอาจารย์โอใช้เวลาทำและเก็บสะสมมาทั้งชีวิตก็ว่าได้อาทิเช่น ผงมหาปราบ, ผงมหาถอน, ผง 72 กัน ของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ, ผงมหากันดำ ขาว เหลือง ของหลวงพ่อคง บางกะพ้อม, ผงมหากันใหญ่ของหลวงปู่ทิม, ผงมหากันคุณ12ภาษา, ผงวิเศษต่างๆอีกมากมายที่มีคุณทางด้านกันคุณไสยภูติผีปีศาจ และตะกรุดประจุขาด1ดอก
มาดูกันว่ามีดหมอมหาเถรตำแยของพระอาจารย์โอจะมีอานุภาพทำอะไรได้บ้างตามข้อดังต่อไปนี้
1.มีดหมอยามหาเถรตำแยสามารถป้องกันคุณไสย กันคุณกันของ ภูติผีปีศาจ เทวดามิจฉาทิฏฐิ ลมเพลมพัด เป็นมหาอำนาจ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดและชาตรี อริศัตรูที่หวังปองร้ายจะแพ้ภัยตนเอง
2.มีดหมอยามหาเถรตำแยสามารถนำมาอาราธนาทำน้ำมนต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้ในการอาบล้างชำระเสนียดจัญไรและสิ่งอัปมงคลออกจากตัว โดยใช้ปลายมีดจุ่มลงในน้ำก่อนเสกด้วยพระคาถาของมีดหมอยามหาเถรตำแย
3.มีดหมอยามหาเถรตำแยสามารถขับไล่และป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษทั้งหลาย รวมไปถึงสัตว์ที่มีเขี้ยวงาได้ หากเดินทางไปในที่ต่างถิ่นหรือป่าเขาลำเนาไพร ให้อาราธนาพระคาถาของมีดหมอมหาเถรตำแยและทำการขอขมาพระแม่ธรณีก่อนใช้ปลายมีดขีดบริเวณรอบที่พักอาศัย เหล่าสัตว์ร้ายและสิ่งที่มองไม่เห็นจะไม่สามารถทำอันตรายได้เลย
4.มีดหมอยามหาเถรตำแยสามารถช่วยป้องกันบ้านเรือนเคหะสถานให้ปลอดภัยรอดพ้นจากภูติผีปีศาจ,โจรขโมยผู้ร้ายและอัคคีภัยได้ เช่นหากจะมีภัยมาถึงตัว จะรู้สึกตัวก่อนเป็นต้น โดยให้อาราธนาพระคาถาของมีดหมอมหาเถรตำแยก่อนหงายใบมีดที่เป็นรูปเพชรพญาธรหันหัวพุ่งออกทางปลายมีดขึ้น และชักมีดออกมาจากฝักเพียงเล็กน้อย
5.มีดหมอยามหาเถรตำแยสามารถช่วยดึงดูดโชคลาภเงินทอง,ผู้คนลูกค้าและสิริมงคลมาสู่ร้านค้าเคหะสถานได้ โดยให้อาราธนาพระคาถาของมีดมหมอมหาเถรตำแยก่อนหงายใบมีดที่เป็นรูปเพชรพญาธรหันหัวเข้าหาด้ามมีดขึ้น และชักมีดออกจากฝักเพียงเล็กน้อย โดยวางในที่สมควรและให้ปลายมีดชี้ออกหน้าบ้าน