คราสคืออะไร?

“คราส “ คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องระหว่าง พระอาทิตย์, โลก และพระจันทร์ โคจรมาอยู่ในเส้นระนาบเดียวกัน

แบ่งเป็น 2 อย่างหลักตามหลักง่ายๆ คือ

1. สุริยคราส อันเกิดจากปรากฏการณ์ที่เงาของโลก หรือดวงจันทร์ ปรากฏทับดวงอาทิตย์

2. จันทรคราส คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดเงาบนดวงจันทร์ ส่วนมากจะเกิดในวันเพ็ญเต็มดวง

เมื่อคราสเกิดขึ้น ส่วนมากจะส่งผลเสียต่อผู้ที่เกิดในราศีที่เกิดคราส หรือทับจันทร์ทับอาทิตย์ในดวงชะตา เป็นเหตุทำให้ชีวิตตกต่ำ เกิดปัญหา มีเรื่องทุกข์ใจต่างๆนานา

คุณวิเศษของยากันคราส

การแก้คราสนั้น มีอยู่หลายวิธี อย่างวิธีตามตำราของอาจารย์เทพย์ ก็คือการห้อยบูชาพระเครื่องที่มีพุทธคุณในด้านกลับดวง กลับจากร้ายให้เป็นดี เฉกเช่นการใส่พระเครื่องเศียรโล้นสดุ้งกลับ

ส่วนวิธีแก้คราสของพระอาจารย์โอก็มี เช่นในสมัยก่อนพระอาจารย์โอจะแนะนำให้ลูกศิษย์ทานยาวาสนาจินดามณีและยากันคราส พร้อมกับดื่มน้ำมนต์ 18 โองการ และใส่พระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณในการแก้คราสนานติดต่อกัน 3 เดือน ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกแต่จริงว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือวิกฤตการณ์ทางบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ลูกศิษย์ของพระอาจารย์โอที่เชื่อและทำตามคำแนะนำของพระอาจารย์จะยังคงอยู่รอดปลอดภัย และอยู่ดีกินดีกว่าคนอื่นเขาอยู่เสมอๆ

นอกจากนี้ยังมีอีกพิธีกรรมหนึ่งที่นอกเหนือจากพิธีไหว้ครูที่พระอาจารย์โอจะจัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง นั่นคือพิธี “อาบน้ำเพ็ญ”เป็นอุบายที่พระอาจารย์โอต้องการให้ลูกศิษย์ที่ศรัทธา มาอาบน้ำเพ็ญแล้วกินยาวิเศษในกระปุกยา 2 กระปุกที่พระอาจารย์โอเตรียมไว้ กระปุกหนึ่งคือ “ยาวาสนาจินดามณี” ส่วนอีกกระปุกหนึ่งคือ “ยากันคราส” ซึ่งเป็นเคล็ดลับการอยู่เหนือดวงชะตาและการโคจรของจักรราศีนั่นเอง สรุปได้ว่าใครที่พกหรือทานยากันคราสจะไม่มีวันดวงจะตก ไม่อับโชค ไม่อับวาสนา ไม่ต้องกลัวชงเลย เพียงคิดว่าจะทำมาหากินอะไรอย่างไรก็พอ

ประวัติความเป็นมาของยากันคราส

การเคลื่อนที่หรือโคจรของดวงดาวและดาวเคราะห์ต่างๆนั้น ย่อมมีอิทธิพลต่อชีวิตและดวงชะตาของมนุษย์ ซึ่งหากกล่าวถึงดาวเคราะห์ต่างที่ให้โทษ คงไม่มีดาวเคราะห์ไหนจะร้ายกาจเกินดาวราหู แต่ดาวราหูเป็นเพียงต้นเหตุของความร้ายกาจ เพราะสิ่งที่ร้ายกาจที่สุดจริงๆคือ “คราส” ที่เกิดจากดาวราหู เมื่อคราสไปทับดวงของมนุษย์ผู้ใด มนุษย์ผู้นั้นจะได้รับความเจ็บป่วย ความชิบหาย หรือกระทั่งความตายได้เลย

ด้วยเหตุนี้โบราณจารย์ผู้ทรงภูมิจึงได้หาวิธีในการกันและแก้ “คราส” ด้วยการสร้าง “ยากันคราส” ตามตำราที่ฤาษีจันทรพระภา และฤาษีสุริยะประภา ได้รจนาไว้เมื่ออดีต ถือเป็นของวิเศษที่ในสมัยก่อนเขาจะปิดบังสงวนไว้เฉพาะสำหรับชนชั้นใดๆชนชั้นหนึ่งเท่านั้น สูตรตำหรับการสร้างยากันคราสจะคล้ายกับยาจินดามณี แต่มีฤทธิ์เหนือกว่ายาจินดามณีขึ้นไปอีก ด้วยการเพิ่มตัวยาพิเศษเฉพาะบางตัวเข้าไป

ทำไมยิ่งเก่าถึงยิ่งมีคุณค่า?

เหตุเพราะตัวยาบางตัวนั้น ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในสมัยนี้ บางชนิดหาได้ยากมาก ส่วนบางชนิดก็ได้สูญพันธ์ไปแล้ว ดังนั้นยากันคราสรุ่นเก่าๆก็จะยิ่งมีความเข้มข้นและความครบถ้วนของตัวยามากกว่ารุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้เมื่อวันเวลาผ่านไป ยิ่งนานวันเท่าไหร่ยากันคราสก็จะยิ่งเข้มขลังขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อราหูเสวยเข้าออกในจักรราศีต่างๆตามรอบ ฤทธิ์โทษของราหูจะถูกยากันคราสนี้ดูดซับแล้วแปรเปลี่ยนให้เป็นคุณประโยชน์แทน ดังนั้นยากันคราสยิ่งเก่าเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณค่าและฤทธานุภาพมากขึ้นเท่านั้น

ยากันคราส มีทั้งหมด 4 แบบให้บูชา:

ยากันคราสชุดอาบน้ำเพ็ญปี 2558, ชุดวัดเก่ากุฏิพระเจ้าห้าพระองค์ ปี 2549, และชุดกุฏิสองชั้น ปี 2547 เป็นชุดที่พระอาจารย์โอจัดสร้างเองตามวาระต่างๆ โดยพระอาจารย์โอได้นำยากันคราส “ชุดปรมาจารย์พิธีจักรพรรดิ์ ปี 2515” มาเป็นเชื้อครูในการจัดสร้าง เพราะยากันคราสชุดปรมาจารย์ พิธีจักรพรรดิ์ ปี 2515 ถือเป็นเป็นชุดพิเศษที่ปรมาจารย์ของอาจารย์ของพระอาจารย์โอสร้างไว้เมื่อปี 2515 ในพิธีจักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของสยามประเทศ จึงถือเป็นยากันคราสชุดที่มีตัวยาครบและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่สุด จนสามารถพูดได้เลยว่าใครมีไว้บูชาติดตัว จะพลิกชะตาฟ้าลิขิตได้เลยทีเดียว

1. ชุดอาบน้ำเพ็ญปี 2558

-บูชา 3 เม็ด 100 บาท

-ใช้รับประทานเท่านั้น โดยทาน 1 เม็ดทันทีเมื่อได้ไปวันแรก และให้กินเม็ดที่ 2 และ 3 ในวันพระขึ้น 15 ค่ำ ตามลำดับ หากผู้ใดมีโรคภัยรุมเร้าหรือปรารถนาสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุวัฒนะบริบูรณ์ สามารถทานได้วันละ 1 เม็ดทุกวัน 

2. ชุดวัดเก่ากุฏิพระเจ้าห้าพระองค์ ปี 2549

-บูชาเม็ดละ 3,000 บาท

-ใช้พกพาติดตัว

3. ชุดกุฏิสองชั้น ปี 2547

-บูชาเม็ดละ 16,000

-ใช้พกพาติดตัว

4. ชุดปรมาจารย์ พิธีจักรพรรดิ์ ปี 2515

-บูชาเม็ดละ 56,000 บาท (พร้อมตลับเงินตีขึ้นมือพิเศษ)

-ใช้พกพาติดตัว

ระยะเวลาการขาย : จนกว่าของจะหมด