รายละเอียด:
ทองรอด, พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์
มวลสารเดียวกับสมเด็จองค์ปฐม “ปางห้ามสมุทร”
พระอาจารย์โอกล่าวว่า “ของสิ่งนี้มีคุณค่าทางจิตใจต่อฉัน เทียบเท่า พระรอด”
เป็นอีกหนึ่งความเชื่อและภูมิปัญญาของคนไทยในสมัยโบราณ ที่เมื่อใดก็ตามที่มีพิธีเททองหล่อพระแล้ว ในระหว่างขั้นตอนการเททองลงในแม่พิมพ์พระ เขาจะเรียกทองที่ล้นออกมาจากเบ้าแม่พิมพ์ว่า “ทองรอด” ซึ่งถือว่าเป็นของดีมีมงคลในตัว เปรียบเสมือนผู้หลุดรอดพ้นภัยจากอุปสรรค,ความยากลำบากและเหตุร้ายต่างๆทั้งปวง
ผู้คนในสมัยก่อนจะเชื่อถือกันมากว่าเป็นวัตถุมงคลชั้นยอด เพราะการสร้างองค์พระปฎิมานั้นเป็นบุญใหญ่ ซึ่งจะมีมารคอยขัดขวางไม่ให้ทำสำเร็จได้โดยง่าย แต่เมื่อพิธีเททองหล่อได้ผ่านพ้นลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว นั่นเปรียบได้กับการที่พระพุทธเจ้าทรงชนะหมู่มาร เป็นอุดมมงคลอย่างแท้จริง นอกจากนี้ทั้งมวลสารและพิธีกรรมในพิธีเททองหล่อพระก็มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุด จึงนิยมนำ “ทองรอด” มาถักลวดไว้พกพาติดตัวกัน ผู้แก่ผู้เฒ่ามักจะให้ลูกหลานห้อยติดตัวไว้โดยมีความเชื่อว่า ลูกหลานไปไหนมาไหนจะได้แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นกลับมา ได้รับชัยชนะสมประสงค์ โดยเฉพาะสมัยที่ยังมีการรบทัพจับศึกกันอยู่ ทหารส่วนใหญ่จะหา “ทองรอด” มาไว้ติดตัวกันทั้งนั้น เพื่อจะได้รอดกลับมาจากสมรภูมิ ถึงบ้านเกิดเมืองนอนอย่างปลอดภัยนั่นเอง
ในหมู่ลูกศิษย์พระอาจารย์โอรุ่นเก่าๆ จะมีของที่ทุกคนต่างหวงแหนกันเป็นที่สุดชิ้นหนึ่งคือ “ทองรอด” จากพิธีเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐม วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2553 ซึ่งใครที่ได้ไปบูชาต่างก็พบเจอประสบการณ์ดีๆกันถ้วนหน้า บางคนถูกหวยเงินหมื่นเงินแสนก็มี ถือเป็นของในตำนานไปโดยปริยายแล้วในเวลานี้
สำหรับ ”ทองรอด” เม็ดนี้นั้น ก็คงจะมีพุทธคุณไม่ต่างกัน ใช้เลี่ยมติดตัว ทำเป็นหัวแหวน แช่น้ำอธิษฐานให้เป็นน้ำมนต์ดื่มกินอาบตัวดึงดูดสิ่งมงคลเข้าตัว อธิษฐานได้ทุกเรื่องในทางกุศล มีชัยชนะเหนือคู่แข่งศัตรู อยู่รอดปลอดภัย คุณวิเศษของทองรอดนี้จึงเปรียบได้กับฝอยท่วมหลังช้างก็ไม่ปาน
ปฐมเหตุแห่งการสร้าง “สมเด็จองค์ปฐม ปางห้ามสมุทร”
สมเด็จองค์ปฐม “ปางห้ามสมุทร” เป็นพระพุทธรูปที่มีบารมีมาก จะสังเกตุได้ว่าในวัดวาพระอารามหลวงต่างๆที่สำคัญๆ จะมีพระปางห้ามสมุทรนี้ ประดิษฐานอยู่แทบทั้งสิ้น พระอาจารย์โอก็มีเจตจำนงค์ตั้งใจจะสร้างอย่างยิ่งยวดมาหลายสิบปี ตั้งแต่ปี36 เมื่อถึงปี38 ก็ยังหามวลสารไม่ครบ จวบจนปี 42 ก็ยังมีเรื่องให้ติดขัดอยู่มากมาย เพราะพระพุทธรูปปางนี้ ถ้าวาสนายังไม่ถึงจะมีปัญหาในการสร้าง
แต่ในที่สุด ในปี60นี้ทุกอย่างลงตัวเสมือนเทพเทวดาร่วมอนุโมทนาในมหาบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เพราะตั้งแต่พระอาจารย์โอเริ่มดำริให้มีการสร้าง ก็มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาอย่างอัศจรรย์ อุปสรรคใดๆที่ติดขัดอยู่ก็คลายออกอย่างง่ายดาย พระอาจารย์โอจึงอยากจะเผื่อแผ่อานิสงค์ ให้ผู้ที่มีจิตศรัทธา ร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกัน เพราะโอกาสแบบนี้ จะมีเพียง 1 ครั้ง ในรอบ 66 ปีเท่านั้น
หลังจากพิธีหล่อองค์พระเสร็จสิ้นแล้ว พระอาจารย์โอจะทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,พระโมคคัลลานะ, พระสารีบุตร, และพระนางพิมพาเถรี ประดิษฐานภายในองค์พระ ปางห้ามสมุทร ซึ่งพระธาตุทุกองค์เป็นพระธาตุที่ถูกส่งทอดสืบต่อกันมาอย่างมีที่มาที่ไปชัดเจน ถูกเก็บบรรจุพร้อมกับเครื่องมงคลต่างๆอยู่ในตลับไม้โพธิ์นิพพานจากอินเดียมากว่าร้อยปี เมื่อทำการบรรจุพระธาตุเสร็จสิ้นแล้ว จึงถือว่าถูกต้องครบถ้วนตามตำราแล้วเทอญ
มวลสารสมเด็จองค์ปฐมปางห้ามสมุทร
ตลอดระยะเวลาทั้งชีวิตของพระอาจารย์โอ ท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาจากหลายๆสำนัก วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังต่างๆที่ท่านได้รับมอบมาจากครูบาอาจารย์จึงมีอยู่ไม่น้อย ด้วยความรักความชื่นชอบในศาสตร์แขนงนี้เป็นเหตุให้พระอาจารย์โอชื่นชอบในการเสาะแสวงหาเก็บสะสมวัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อ รวมถึงของวิเศษต่างๆด้วยไปโดยปริยาย อันไหนที่ว่าดี อันไหนที่ว่าหายาก อันไหนที่ว่าดัง ก็ผ่านมือท่านมาหมดแล้ว แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง พระอาจารย์โอก็ได้พิจารณาเห็นว่า ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ถ้าหากวันนึงวันใดที่พระอาจารย์โอไม่อยู่ วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังเหล่านี้ ก็คงจะกระจัดกระจายกันไปตามวิถี สู่มือของผู้ที่เห็นค่าบ้าง สู่มือของผู้ที่ไม่เห็นค่าบ้าง พระอาจารย์โอจึงติดสินใจนำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังส่วนใหญ่ที่ท่านได้เก็บสะสมมาด้วยความภาคภูมิใจมาหลอมรวมกันเพื่อก่อเกิดเป็นองค์พระปฎิมา ผู้เปี่ยมด้วยสัพพัญญู ประดิษฐานสถิตไว้ในโลกเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ให้ได้กราบไหว้บูชาทั้งในเบื้องนี้และเบื้องหน้าสืบไป
เมื่อพระอาจารย์โออธิษฐานบอกกล่าวถึงครูบาอาจารย์ต่างๆถึงการสร้างสมเด็จองค์ปฐม ปางห้ามสมุทรในครั้งนี้ ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นหลายๆอย่าง เช่นวัตถุมงคลของเกจิรุ่นก่อนๆที่พระอาจารย์โอต้องการนำมาเป็นมวลสารในการสร้างพระครั้งนี้ ก็มีเหตุให้ได้มาเสมือนว่าดวงจิตของครูบาอาจารย์ท่านทั้งหลายเหล่านั้นอยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพระครั้งนี้ด้วยนั่นเอง
มวลสารต่างๆที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทั้งหมดล้วนมีค่ายิ่ง บางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ และส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นของที่แม้จะมีเงินก็หาซื้อไม่ได้ แต่พระอาจารย์โอกลับได้มาในช่วงที่คิดจะสร้างพระพอดิบพอดี เป็นนิมิตหมายอันเป็นมงคลว่า วาสนาบารมีส่งผลเพียงพอให้สามารถสร้างพระปางห้ามสมุทรได้แล้ว ดังนั้นความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของมวลสารนั้นจะเข้มข้นแค่ไหนคงไม่ต้องพูดถึง ขนาดพระอาจารย์โอยังถึงกับกล่าวว่า “ฉันเทหมดหน้าตัก ในการสร้างพระองค์นี้”
มวลสารที่ใช้ในการหล่อสมเด็จองค์ปฐมในครั้งนี้ที่สามารถเปิดเผยได้ อาทิเช่น
-ชิน, เงิน, ทองแดง, ทองคำ ที่ได้จากการฆ่าธาตุตาย ก่อนจะนำไปผสมกับโลหะชนิดอื่นๆ จนเกิดเป็น “นวโลหะ”
-แผ่นยันต์มหาจักรพรรดิ
-แผ่นยันต์มหาราช
-แผ่นยันต์108 14นะตามตำหรับวัดสุทัศน์
-แผ่นยันต์จากปรมาจารย์ชั้นครูหลายร้อยแผ่น
-ตะกรุดหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง
-ตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
-ตะกรุดหลวงพ่อสิ้ว วัดปากห้วยขอนแก่น
-ตะกรุดหลวงพ่อเง่า วัดบ้านติ้ว
-ตะกรุดหลวงพ่อโม วัดวังหมาเน่า
-ยันต์เกราะเพชร ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-ตะกรุดจักรพรรดิ์ ที่พระอาจารย์โอเสกจนฟ้าผ่า
-เงินราง
-ขวานฟ้า
-ปรอท เม็ดสำคัญๆของพระอาจารย์โอ
เชื่อกันว่าทองที่ “รอด” ออกมาจากเบ้า ในพิธีเททองหล่อพระ
ถือเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ใช้แทน “พระรอด” ได้เลย
เมื่อพิธีเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมปางห้ามสมุทรเสร็จสิ้นลงแล้วอย่างบริบูรณ์ “ทอดรอด” ที่รอดพ้นจากการถูกเทลงเบ้า ก็ถูกนำมาหุงให้เป็นเม็ด พร้อมให้ผู้ศรัทธานำไปบูชา
เคาะออกมาแล้วจะเป็นดังภาพที่เห็นจ้า