รายละเอียด:
ตะกรุดพิชัยสงคราม, พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์
หนึ่งในสุดยอดวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าที่เมื่อครั้งอดีดมีแต่เจ้านายชั้นสูง แม่ทัพ นายกองเท่านั้นจึงจะได้ครอบครอง พระอาจารย์โอท่านตั้งใจสร้างเป็นอย่างมาก และมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง จากประสบการณ์ที่ได้บูชาด้วยตนเอง ว่านี่คือที่สุดตะกรุดมหามงคลชั้นสูงที่จะคอยหนุนนำผู้บูชาให้เจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียว
ท่านว่าหากใครประสบพบเจอกับเคราะห์เข็ญเวรกรรมอันก่อให้เกิดทุกข์ ให้นำตะกรุดพิชัยสงครามนี้มาพกบูชาดูเถิด ไม่เกินหกเดือนเรื่องต่างๆที่หนักหนาจะคลี่คลายทุเลาเบาบางลง ทั้งยังส่งเสริมดวงชะตาราศี ลาภผลพูนทวี คลาดแคล้วจากภัยทั้งปวง ชนะศัตรู เป็นมหานิยมยิ่งนัก เทวดารักแล ดีครอบจักรวาลยากจะอธิบายได้หมด อย่างที่พระอาจารย์โอท่านอุปมาถึงพุทธคุณของตะกรุดพิชัยสงครามนี้ว่า “ไม่เผ็ดจัดเหมือนพริก ไม่เค็มจัดเหมือนเกลือ ไม่หวานจัดเหมือนน้ำตาล แต่เป็นรสที่พอดีและไม่มีไม่ได้ ถ้าขาดไปก็ไร้ซึ่งรสอร่อย”
ตะกรุดพิชัยสงครามชุดนี้สร้างจาก "เนื้อเงินศักดิ์สิทธิ์" ผ่านการเข้าพิธีมงคลหลายวาระ อยู่ในห้องพิธีของพระอาจารย์โอมานาน เรียกว่าเป็นของสูง เป็นของสำคัญ ที่พระอาจารย์โอท่านสวดสักการะบูชาอยู่ทุกเช้าเย็น
ขนาด: 11.5 ซม.
จัดสร้างทั้งหมด: 28 ดอก
บูชา 16,000 บาท
Pichai Songkram Takrud by Phra Arjarn O, Phetchabun.
One of the most valuable sacred amulets that in the former time only royal-blooded person, high-class people, & army leader can own. Phra Arjarn O highly concentrated his attention to make this Takrud & having a lot of confidence in its power. Due to the personal experiences after using this Takrud by himself, he ensure that “Pichai Songkram Takrud” is the most auspicious Takrud that will support the worshipers to completely prosper in life.
Phra Arjarn O said that if anyone encounters with misfortune causing suffering, just wear this Takrud. After that no more than 6 months, the serious issues & problems will be alleviated. While also supporting fortune, bringing wealth and prosperity, being safe from all dangers, defeating the enemy & being loved by angel. The magical ability of this Takrud is wide & universal beyond explanation. As Phra Arjahn O’s parable about its power that "Not Very Spicy Like Chili. Not Very Salty Like Salt, Not Very Sweet Like Sugar But, It Is The Must Have Full-Flavoured Feeling. Without It, Without Delicious".
This batch of “Pichai Songkram Takrud” was made from sacred silver material, passed through many auspicious ceremonies & has been worshipped in the ceremonial room of Phra Arjarn O for a long time. It is high-class amulet that Phra Arjarn O chanted & prayed every day morning & evening.
Length: 11.5 cm.
Made: 28 pcs.
ด้วยอานุภาพแห่งดวงพระชะตาขององค์สมเด็จพระจอมไตร และพระนามของพระพุทธเจ้าเมื่อกาลก่อนที่สถิตอยู่ภายในตะกรุด ตั้งบูชาไว้ในสถานที่ใด ก็ย่อมเกิดความร่มเย็นเป็นสุข ในสถานที่แห่งนั้น หรือพกพาติตตัวไว้ก็ถือเป็นสิริมงคลอย่างมากแก่ตัวผู้ถือครอง ผู้บูชาสามารถเขียนชื่อนามสกุลตนเอง ม้วนใส่ไว้ในตะกรุด เสมือนฝากดวงฝากชีวิตไว้กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งยังสามารถแนบเส้นผมของบิดามารดาไว้ในตะกรุด เพื่อขออำนาจพุทธบารมีและพระเมตตาของพระพุทธเจ้าทรงช่วยปกปักรักษาบิดามารดาอีกทางหนึ่งได้อีกด้วย
Due to the power from the horoscope of Gotama Buddha's & the name of previous Lord Buddhas in the past that Phra Arjarn O wrote inside this Takrud, wherever area or home that has this Takrud will be full of peacefulness. Moreover, whoever has this Takrud wearing as personal amulet will has very good fortune. The owner can write their names & surnames and insert inside the tube of Takrud as if depositing his/her horoscope & destiny with the Lord Buddha. Furthermore, the owner also can attach the hair of his/her father & mother into this Takrud because the power of the Buddha's grace & kindness will always help & protect them as well.
หนึ่งในตะกรุดที่พระอาจารย์พกติดตัวไม่ห่าง
โดยท่านพระอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าทำใช้มานานและเชื่อมั่นในตะกรุดนี้มาก คราใดที่มีเรื่องมีราวทำให้ไม่สบายใจ จงตั้งสติสวดบูชาดวงให้มากขึ้น เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี ชีวิตมีทางไปได้เสมอ อันนี้จากประสบการณ์ข้าพเจ้าเอง”
One Of The Best Takrud That Being With Phra Arjarn O All The Time.
Phra Arjarn O ever said "I have been using Pichai Songkram Takrud for a long time, I’m very confident in this Takrud. Whenever there is an issue that makes you feel uncomfortable, you can pray to this Takrud. Bad things will turnover to be good. Life always has way to go. These are examples of my own experience."
พระยันต์ที่นำมาซึ่งชัยชนะ
ตำนานของพระยันต์พิชัยสงครามนี้ว่ากันว่าในสมัยหนึ่งบ้านเมืองเกิดศึกสงคราม ถูกกองกำลังของข้าศึกล้อมเมืองไว้ทุกด้าน เหล่าปุโรหิตผู้ทรงวิทยาคมทั้งหลายจึงต้องมาประชุมกันเพื่อหาวิธีต่อสู้กับกองทัพของศัตรู “ยันต์พิชัยสงคราม” จึงได้ถูกรจนาขึ้นภายในการประชุมครั้งนั้นนั่นเอง
โดยมีมติสรุปให้มีการนำยันต์พิชัยสงครามลงไว้ในตะกรุดพิชัยสงครามและผ้ายันต์เพื่อให้เจ้าเมืองและแม่ทัพนายกองแต่ละคนพกพาติดตัวไว้ หลังจากนั้นก็บังเกิดปาฏิหาริย์มากมาย จนแม่ทัพนายกองสามารรถนำกองกำลังไล่ตีข้าศึกศัตรูให้ต้องถอยทัพกลับออกไป ทำให้ได้รับชัยชนะ ในศึกที่ไม่อาจชนะได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นประวัติความเป็นมาของยันต์พิชัยสงครามก็มีอยู่หลายตำนาน การจะสืบค้นว่าใครเป็นผู้คิดค้นเป็นครั้งแรกก็คงไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ บ้างก็ว่า “ท่านอาจารย์ทิศาปาโมกข์” เป็นผู้รจนาไว้ให้เป็นหนึ่งในพระยันต์ที่สูงที่สุด ยันต์พิชัยสงครามนี้ถูกสืบทอดส่งต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย แตกแขนงออกไปตามปรากฏอยู่ในตำราและสำนักต่างๆมากมาย จึงไม่สามารถบอกได้ว่าของใครถูกของใครผิด แต่สิ่งที่แน่นอนชัดเจนคือทุกสำนักต่างยกย่องให้ยันต์นี้เป็นหนึ่งในยันต์ชั้นสูงที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดตลอดกาล
ซึ่งเนื้อหาในพระยันต์พิชัยสงครามมีการกล่าวถึงบทรัตนมาลา, พระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ และอักขระหัวใจย่อของคัมภีร์โพธิลังกา ,คัมภีร์ชินาลังกา ,คัมภีร์มูลกัจจายน์ และคัมภีร์ปฐมสมโพธิ รวมอยู่ในพระยันต์นี้ไว้ได้อย่างวิจิตรพิสดาร
The Great Yant Of The Great Victory.
The legend of Pichai Songkram Yant is said that once upon a time the country had a war. Enemy forces surrounded the town for every side, so the priests & sorcerers had to consult together to find a way to fight against the enemy. Therefore, "Pichai Songkram Yant" was created within that meeting.
They used Pichai Songkram Yant to make Takrud & holy cloth and distributed to the governor & each army leader.
After that, there are many miracles occurred until the commander could strike & chase the enemy retreated out of the town. They got the victory in the battle that cannot be won by the absolute power of Pichai Songkram.
However, there are many legends of the history of Pichai Songkram Yant. Finding the first person who invented it would probably not be clear. Some said that “Master Tisapamoke” created this Yant to be one of the highest Yant ever.
In which the content of Pichai Songkram Yant mentioned about Ratana Mala, virtues of Buddha, virtues of Dharma, virtues of Sangha and the heart of Bodhi Lanka Scripture, Shinar Lanka Scripture, Mula Kaccayana Scripture & Pathamsomphotticatha Scripture included in this Yant miraculously.
โดยปกติยันต์พิชัยสงครามมักนิยมลงดวงชะตาของผู้ถือครองที่ได้จากการคำนวณคำนวณอินทภาศบาทจันทร์ตามวันเดือนปีเวลาเกิดไว้ที่พระยันต์ แต่สำหรับ “ตะกรุดพิชัยสงคราม” รุ่นนี้นั้น พระะอาจารย์โอท่านได้อัญเชิญดวงพระชะตาขององค์พระสมณโคดมพุทธเจ้าตอนประสูติ มาประทับไว้ที่พระยันต์อย่างวิจิตร และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือตรงกลางพระยันต์จะลงด้วยพระนามของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ทำให้ตะกรุดพิชัยสงครามชุดนี้ทั้ง 28 ดอก จะมีพระนามของพระพุทธเจ้าประทับอยู่ด้านในไม่ซ้ำกันเลย แล้วแต่วาสนาว่าใครจะได้ดอกไหน
Normally, Pichai Songkram Takrud will be often made by using the horoscope & biography of the worshiper such as the date & time of birth to calculate into numeric sign & magical alphabet before writing those encoded information into the material of Takrud.
However, this version of “Pichai Songkram Takrud” is much more special than regular type because Phra Arjarn O invited the horoscope of Gotama Buddha's birthday & the time of birth that was already encoded to be numeric sign & magical alphabet to write into this Takrud exquisitely. Specifically, at the center point of this Takrud has 28 names of other Buddhas causing all 28 pieces of “Pichai Songkram Takrud” also has different 28 Buddha's name inside too. Depending on the fortune, who will get which one.
พระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์นั้นมีดังนี้ พระตัณหังกรพุทธเจ้า, พระเมธังกรพุทธเจ้า, พระสรณังกรพุทธเจ้า, พระทีปังกรพุทธเจ้า, พระโกณฑัญญพุทธเจ้า, พระมังคลพุทธเจ้า, พระสุมนพุทธเจ้า, พระเรวตพุทธเจ้า ,พระโสภิตพุทธเจ้า ,พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า ,พระปทุมพุทธเจ้า ,พระนารทพุทธเจ้า ,พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ,พระสุเมธพุทธเจ้า ,พระสุชาตพุทธเจ้า ,พระปิยทัสสีพุทธเจ้า ,พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ,พระธรรมทัสสีพุทธเจ้า ,พระสิทธัตถพุทธเจ้า ,พระติสสพุทธเจ้า ,พระปุสสพุทธเจ้า ,พระวิปัสสีพุทธเจ้า ,พระสิขีพุทธเจ้า ,พระเวสสภูพุทธเจ้า ,พระกกุสันธพุทธเจ้า ,พระโกนาคมนพุทธเจ้า ,พระกัสสปพุทธเจ้า ,และพระโคตมพุทธเจ้า
The name lists of 28 Buddhas consisted of Taṇhaṅkara, Medhaṅkara, Saraṇaṅkara, Dīpaṃkara, Koṇḍañña, Maṅgala, Sumana, Revata, Sobhita, Anomadassi, Paduma, Nārada, Padumuttara, Sumedha, Sujāta, Piyadassi, Atthadassi, Dhammadassī, Siddhattha, Tissa, Phussa, Vipassī, Sikhī, Vessabhū, Kakusandha, Koṇāgamana, Kassapa, and Gotama.
พระอาจารย์โอท่านได้แบบอย่างการลงยันต์พิชัยสงครามอันวิจิตรงดงามเช่นนี้มาจากการสร้างวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆอาทิเช่น “ตะกรุดไม้ครู” ของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ ตำนานไม้ครูอันดับหนึ่งของวงการ ด้วยว่าเวลาหลวงปู่ภูท่านสร้างตะกรุดไม้ครูแต่ละดอก ท่านจะลงพระนามของพระพุทธเจ้าต่างๆกันตามนิมิตที่ท่านสัมผัสได้ในแต่ละครั้ง
อย่างการสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศน์ก็เช่นเดียวกัน เพราะปรากฏว่ามีการจารึกพระนามของพระพุทธเจ้าที่ฐานของพระกริ่งคละกันไปตามแต่ครูอาจารย์ท่านจะพิจารณา นอกจากนี้ ปรมาจารย์โหราศาสตร์, อักขระเลขยันต์, ไสยศาสตร์, และพุทธาคมของเมืองไทยท่านหนึ่งผู้เป็นอาจารย์ของพระอาจารย์โอ ก็มักจะพกพระบูชาขนาดเล็ก หน้าตักประมาณ 2 นิ้วไปไหนมาไหนเสมอ เป็นพระประจำตัวที่ท่านจะนำติดตัวไปด้วยทุกที่ แสดงถึงความรักความศรัทธาที่ท่านมีต่อพระองค์นั้นเป็นพิเศษ ภายในองค์พระก็มีการบรรจุตะกรุดพิชัยสงครามที่ลงด้วยดวงพระชะตาของพระสมณโคดมพุทธเจ้าเช่นกัน
Phra Arjarn O made this “Pichai Songkram Takrud” followed previous well-known masters such as "Maikru Takrud" of LP.Poo, Wat in which has been praised to be the no.1 Maikru of Thailand. When LP.Poo made his Maikru, he would also put the different names of the Lord Buddha into each Maikru differently according to his omen.
The same as Phra Kring of Wat Suthat were made. Because it appears that the different names of Buddha were engraved at the base of each Phra Kring differently. In addition, the great astrologer & wizard of Thailand who is one of Phra Arjarn O’s teachers usually carry a small Buddha statue with him everywhere. Inside that Buddha statue also has a “Pichai Songkram Takrud” that was written with the horoscope of Gotama Buddha as well.
ผงเศษเทวดา
เป็นผงลบกระดานที่ได้จากการเขียนคำนวณดวงพระชะตาพระพุทธเจ้าตอนประสูติ, ตรัสรู้, ปรินิพพาน และปฐมเทศนาบนกระดานชนวน รวมไปถึงดวงพระชะตาของบูรกษัตริย์และบุคคลสำคัญอีกมากมาย ด้วยการคำนวณอินทภาสบาทจันทร์จนได้เป็นชุดอักขระตัวเลขออกมา
พระอาจารย์โอท่านว่าตัวท่านเองโชคดีนักที่มีครูบาอาจารย์ได้เมตตาถอดเฉลยดวงชะตาของท่านบุคคลสำคัญทั้งหลายออกมาไว้ให้อย่างสมบูรณ์แล้ว ท่านจึงสามารถนำชุดอักขระตัวเลขเหล่านั้นมาทำการเขียนสูตรบนกระดานจนสำเร็จเป็นผงเศษเทวดานี้ออกมา เป็นผงศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญในหลายๆตำรา ขึ้นชื่อลือชาว่ามีคุณวิเศษมาก ทั้งแก้คราส กันชง กันเคราะห์ กันไม่ให้ตกต่ำ
แม้แต่ครูบาอาจารย์ของพระอาจารย์โอหลายๆท่านก็พูดตรงกันว่า “จะเรียนผงเก่งแค่ไหนก็ตาม ผงลบกระดานที่ได้ก็ยังมีช่องโหว่ ยังมีจุดตาย ยังมีจุดจบ แต่ถ้าไม่อยากตาย ไม่อยากจบ ให้ลบผงเศษเทวดาใส่เข้าไปด้วย” ถือเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้ผงลบกระดานนั้นๆมีความเข้มขลังขึ้นอย่างมาก ผงเศษเทวดาชุดนี้พระอาจารย์โอท่านได้นำผงเศษเทวดาที่ครูบาอาจารย์รุ่นก่อนท่านได้ทำไว้ดีแล้ว มาผสมกับผงเศษเทวดาที่พระอาจารย์โอท่านเป็นผู้ทำเอง ผงในตลับนี้จึงมีความพิเศษมาก
Deity Dust Powder.
It is a special holy chalkboard powder that was obtained by calculating the Gotama Buddha’s horoscope of Buddha's birth, Buddha's enlightenment, Buddha's nirvana & Buddha's first sermon. Including the horoscope of the Kings & many important people also until getting a set of numeric sign & magical alphabet.
Phra Arjarn O said that he is very fortunate to have a compassionate teacher who completely decrypted the horoscope of those important people so, he can use those numeric signs & magical alphabets to write the formula on the chalkboard until finished into “Deity Dust Powder”, the sacred powder that is very important of many scriptures. It is well-known as the powerful powder which can solve the eclipse side effect, prevent misfortune, & maintain destiny to be high.
Even many Phra Arjarn’s teachers had ever said that "No Matter How Good You Learn Powder Subject, There Is Still A Loophole Or Dead Spot. But If You Want To Seal That Loophole, You Should Add Deity Dust Powder”. This is the special technique that will empower any holy chalkboard powder to be more powerful. Phra Arjarn O brought inherited Deity Dust Powder perfectly made by his teachers to mix with Deity Dust Powder powder made by himself so, the powder in this cassette is very special.
ความรักของพระพุทธองค์
พระอาจารย์โอท่านได้นำรักมาทาไว้ที่ตรงกลางแผ่นยันต์ อันเป็นที่ประทับแห่งพระนามของพระพุทธเจ้า โดยมีนัยยะมงคลหมายถึง “ความรัก” และพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ที่ทรงมีต่อเหล่าสรรพสัตว์อย่างหาประมาณมิได้
Love Of Buddha.
Phra Arjarn O painted “Black Varnish” which has homonym & auspicious meaning as “Love” in Thai language at the middle of “Pichai Songkram Takrud” which is the residence of the name of the Lord Buddha. Phra Arjarn O did like this to represent "Love" & benevolence of the Lord Buddha to all beings indefinitely.
พระอาจารย์โอท่านได้นำผงเศษเทวดา มาผสมกับชาดแดง เพื่อเตรียมทาตะกรุดพิชัยสงคราม
Phra Arjarn O mixed “Deity Dust Powder” with vermillion preparing to paint on “Pichai Songkram Takrud”.
กลับชาติด้วยชาดแดง
หลังจากลงรักแล้ว พระอาจารย์โอท่านก็ได้นำผงเศษเทวดาที่ผสมกับชาดแดงมาทาทับลงไปอีกชั้น เป็นเคล็ดการกลับชาติใหม่ ให้ผู้บูชาได้ประสบพบเจอสิ่งใหม่ๆสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ให้มีสติปัญญาที่เฉียบแหลมกว่าเดิม ให้มีเส้นทางในชีวิตเส้นใหม่ที่ดีกว่าเส้นเก่า
Reincarnation With Vermillion.
After painting with black varnish, Phra Arjarn painted “Deity Dust Powder” that already mixed with vermillion upon black varnish again. This technique call “Reincarnation Trick” to allow worshipers to experience new things & good things in their lives. To have intelligence that is smarter than ever & To have a new life path that is better than the old one.
ช่วงเวลาทองแห่งการปลุกเสกวัตถุมงคล
เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ที่จะมีคราสจันทร์, คราสอาทิตย์, และวันครีษมายันเกิดขึ้นภายในเดือนกัน ซึ่งวัตถุมงคลที่ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกในช่วงที่เกิด "คราส" ย่อมมีคุณวิเศษทำให้ผู้ที่ได้วัตถุมงคลชุดนี้ไปบูชา ไม่พลาดหรือ "คลาด" จากสิ่งที่ปรารถนา ทั้งยังหนุนดวงแก้ดวงตก กันและแก้อาถรรพ์ของคราสได้อีกด้วย
วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้ผ่านซึ่งพิธีกรรมโบราณครบถ้วนกระบวนศาสตร์ ทั้ง3วาระดังนี้:
วาระที่1. "คราสจันทร์" วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563
ถือเป็นวันที่ “ราหูเสวยจันทร” เป็นการบวงสรวงรับพลังพระจันทร์ ซึ่งเป็น "ฤกษ์จันทรคราส" เป็นฤกษ์สำคัญ ที่มีนัยยะหมายถึงพลังแห่งความมืดอันธการจะกลืนกินทุกสิ่ง ดับเคราะห์สิ้นมลายสูญ
วาระที่2. "คราสอาทิตย์" วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563
ถือเป็นวันที่ “ราหูเสวยสุริยะ” เป็นการบวงสรวงรับพลังพระอาทิตย์ ซึ่งเป็น "ฤกษ์สุริยะคราส" เป็นฤกษ์สำคัญ ที่มีนัยยะหมายถึงการบูชาพระพุทธเจ้า เมื่อครั้นพระพุทธเจ้าทรงปราบอสุรินทราหูผู้ที่พยศทิฐิ ต่อพระพุทธองค์ จนท้ายที่สุดอสุรินทราหู ยอมศิโรราบนอบน้อมต่อคุณพระรัตนตรัย และได้พุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระโพธิสัตว์องค์ต่อไปในอนาคต
วาระที่3. "วันครีษมายัน" วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563
เป็นวันที่โลกมีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี เป็นอิทธิพลจากพระอาทิตย์โคจรไปถึง “จุดหยุด” หรือจุดสุดทางเหนือก่อนที่จะย้อนกลับทางเดิมตามวิถีวงโคจร เรียกว่าเป็นช่วงที่ "พระอาทิตย์หยุดเคลื่อนไหว" ชั่วขณะก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อถือกันมาแต่โบราณว่าวันครีษมายัน เป็นวันสำคัญที่เหล่าเทพเจ้าจัดงานเฉลิมฉลองกันเนื่องในโอกาสที่ว่างเว้นจากการงานชั่วคราว วันครีษมายันจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า "วันเฉลิมฉลองของทวยเทพ"
The Golden Time For Blessing Amulets.
It Is an extremely rare opportunity to have Lunar Eclipse, Solar Eclipse & Summer Solstice happen in the same month. The amulet that pass through the chanting rituals during "Eclipse" will have ability to support the owner to never "miss" from the wish list. While also supporting destiny together & solve the negative effect of the eclipse as well.
Absolutely, these amulets were completely passed through 3 auspicious agenda as follows:
1st agenda. "Lunar Eclipse", Saturday 6 June 2020.
"Lunar Eclipse" day is the day that “Rahu Ate Moon”, it is the special auspicious time for blessing amulet. The meaning of ceremony in this day refers to the power of darkness will own everything & switch off misfortune.
2nd agenda. "Solar Eclipse", Sunday 21 June 2020.
"Solar Eclipse" day is the day that “Rahu Ate Sun”, it is the special auspicious time for blessing amulet. The meaning of ceremony in this day is showing respect to Lord Buddha. According to the Legend, when Lord Buddha could vanquish Asurintha Rahu who arrogant with Buddha. Finally, Asurintha Rahu gave up to Lord Buddha and bowl to Threefold refuge and Lord Buddha foretold that Asurintha Rahu will born to be Bodhisattva in the future.
3rd agenda. "Summer Solstice", Sunday 21 June 2020.
It's the day that the earth has the longest daytime of the year caused by the sun orbits to its “Stop Point” or the northernmost point before reversing back. Therefore, it can be said this is the period that "The Sun Stops Moving" for a while. For this reason it is believed since ancient times that summer solstice phenomenon is the important day for all gods to have celebrating ceremony due to the absences from work during the sun stops moving. Therefore, the other name of the summer solstice is "Celebration Day Of The Gods".
พระอาจารย์โอจัดเครื่องบูชาพระราหู พร้อมกดพิมพ์และปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ในช่วงที่เกิด "คราสจันทร์" ของวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563 ตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ที่5จนถึงตีห้าของเช้าวันเสาร์ที่6 ด้วยพลังแห่งความมืดอันธการจะกลืนกินทุกสิ่ง ดับเคราะห์สิ้นมลายสูญ
Phra Arjarn O prepared the complete offering for Rahu and blessed special amulets on the time that has "Lunar Eclipse"of 6 June 2020 since the midnight of 5 June until the morning of 6 June. The power of darkness will own everything & switch off misfortune.
คราสอาทิตย์ & ครีษมายัน เตรียมรับพลังแห่งดวงสุริยันอันร้อนแรงที่สุดแห่งปี วัตถุมงคลในพิธีจะเข้มขลังที่สุด
“Solar Eclipse” & “Summer Solstice”. The amulets in this ceremony will be the most powerful by the hottest day of the year.
พระอาจารย์โอ พร้อมด้วยพระสงฆ์อีก2รูปสวดญัตติคราส
Phra Arjarn O & 2 monks started the blessing ceremony by chanting the mantra for the coming of Solar eclipse.