รายละเอียด:
สีผึ้งมหาราช (รุ่นทวิภาคี), พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์
จัดสร้างโดย "พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา" เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ "อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์" เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
สีผึ้งมหาราชชุดนี้เป็นชุดพิเศษเฉพาะกิจจริงๆที่สามารถพูดได้เลยว่า "โอกาสแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากในโลก" ถือเป็นปฐมบทที่ต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการไสยเวทย์ เป็นการสร้างวัตถุมงคลครั้งแรกที่พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา และอาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ร่วมกันรังสรรค์ออกมาให้ผู้บูชาได้มีโอกาสสัมผัสถึงสิ่งที่มนุษย์ให้คำนิยามว่า "มหัศจรรย์" การันตีด้วยชื่อเสียงของท่านทั้ง2ในวงการ ว่าสีผึ้งมหาราชชุดนี้ ย่อมก่อเกิดประโยชน์และนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตของผู้เป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
สำหรับสีผึ้งมหาราชชุดนี้ อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ได้นำสีผึ้ง 3 สี 3 ชนิด ประกอบไปด้วย สีขาวจากสีผึ้งกะทิ, สีเหลืองจากสีผึ้งขมิ้น และ สีแดงจากรังผึ้งร้างเดือนห้าร้างรังทางทิศตะวันออก มาเป็นมวลสารหลัก โดยอาศัยเคล็ดว่า "สาวสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว" อุปมาเสมือนว่า “ในบริเวณ3หมู่บ้านที่ไม่มีหมู่บ้านไหนมีบ่อน้ำเลย ผู้คนจากทั้ง3หมู่บ้านที่หิวกระหายอยากดื่มน้ำนั้นย่อมมีมากมายเหลือประมาณ แต่เมื่อจู่ๆวันหนึ่งเกิดมีบ่อน้ำบ่อหนึ่งผุดขึ้นมา ผู้คนจากทั้ง3หมู่บ้านก็ย่อมจะต้องมารุมกินน้ำที่บ่อน้ำบ่อนั้นบ่อเดียว”
อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ได้กวนสีผึ้งทั้ง 3 สีเข้าด้วยกัน โดยไม่ใช้ไฟในการหุงให้ละลาย เพราะท่านถือว่าหากใช้ไฟหุงสีผึ้ง ธาตุไฟอาจจะหักล้างกับวิชาทางด้านเมตตาได้ เพราะไฟคือตัวแทนของธาตุไฟ แต่พลังเมตตาเป็นตัวแทนของธาตุน้ำ ไฟกับน้ำย่อมไม่ถูกกัน
ด้วยหลักสำคัญข้อนี้อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ จึงใช้พลังธรรมชาติชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ปราณ" มาใช้เพื่อแทนไฟเพื่อให้สีผึ้งทั้ง 3 สีละลายหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง โดยใช้น้ำมันจันทน์บริสุทธิ์เป็นตัวประสาน พร้อมทั้งบริกรรมคาถาปลุกเสกด้วยจิตอภิญญาไปพร้อมกันบนหลักพื้นฐานโลกเวทย์มนตร์ว่า "วัตถุมงคลต่างๆเป็นแค่สสาร อันหาสาระบ่มิได้ ถ้าไม่ได้เอาอภิญญาจิตเข้าไปขับแล้ว วัตถุมงคลนั้นไซร้ จะหาประโยชน์บ่มีไม่"
สีผึ้งมหาราชชุดนี้บังเกิดขึ้นจากวิชาที่ว่าด้วยการกำเนิดแห่งมหาราช มหาราชาแห่งธรรมทั้งมวล ว่าด้วยโลกียธรรมและโลกุตตรธรรม อันเป็นองค์แห่งความเป็นไปแห่งความเจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียว สีผึ้งมหาราชนี้นอกจากจะเด่นทางด้านเมตตามหานิยมแล้ว ยังดีเรื่องโชคลาภเงินทองอีกด้วย ใช้อธิษฐานพกพาติดตัวเป็นสิริมงคลยิ่ง แตะแต้มต้นเองเป็นเสน่ห์เมตตาชั้นสูง แตะแต้มบุคคลที่หมายปองให้ยินยอมมอบดวงใจให้โดยดุสดี แต้มของขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่ว่าจะใช้ทางใดก็ย่อมบังเกิดคุณประโยชน์ตามมา และที่พิเศษที่สุดสำหรับสีผึ้งมหาราชนี้คือ “ใช้แก้อาถรรพ์ไฝร้ายได้”
อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ท่านว่าสีผึ้งมหาราชนี้ มีคุณวิเศษเหนือสีผึ้งอื่นๆตรงที่ว่า "แม้แต่เจ้าขุนมูลนาย หรือบุคคลชั้นสูง หากเห็นหน้าเราเมื่อไหร่ก็เป็นต้องรัก ได้ยินเสียงเราเมื่อไหร่ก็เป็นต้องเอ็นดู ดั่งว่าเราเป็นเจ้าชาย และเจ้าหญิงของบุคคลทั้งหลายก็ว่าได้" ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ววัตถุมงคลด้านเมตตามหาเสน่ห์ส่วนใหญ่นั้นจะมีพลานุภาพส่งผลต่อบุคคลที่มีระดับเดียวกับผู้ใช้ หรือบุคคลที่มีระดับต่ำกว่า แต่สีผึ้งมหาราชนี้เป็นวิชาชั้นสูงที่มีพลานุภาพเหนือชั้นที่จะส่งผลครอบคลุมถึงบุคคลที่มีวรรณะ, บุคคลชั้นสูงและบุคคลที่สูงศักดิ์กว่า
อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ตั้งใจปลุกเสกสีผึ้งมหาราชนี้โดยเน้นไปทางเมตตามหานิยม ส่วนจะเป็นมหาเสน่ห์หรือไม่นั้น อยู่ที่คนใช้จะพิจารณาประยุกต์ใช้ เพราะผู้ที่ศึกษาคัมภีร์มหาราช ต่างเชื่อว่าหากเป็นเสน่ห์มากเกินไป อาจจะไม่เอื้อต่อผลทางการงานและธุรกิจ เพราะอาจจะมีเหตุให้เสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุเพราะผลจากความเป็นเสน่ห์นั่นเอง ตัวอย่างเช่น หากผู้ชายมีเสน่ห์มากเกินไป ก็ต้องใช้เงินเลี้ยงดูเอาใจผู้หญิงทั้งหมดที่เข้าหาเป็นต้น
วิธีการใช้: ใช้สีปาก โดยมีเคล็ดลับการใช้ว่า หากเข้าหาเจ้านายผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งสีปากโดยเว้นศูนย์ปากไว้ หากเข้าหาเพศตรงข้าม ให้ใช้นิ้วนางกับนิ้วโป้งสีปากโดยเว้นศูนย์ปากไว้ บุคคลที่อยู่ต่อหน้าเราจะเกิดความรักและเอ็นดูแก่เราเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องทำในวันแรกที่ได้ไปบูชา: ให้จัดดอกบัว5ดอก, ธูป5ดอก, เทียน5เล่ม, เงิน12บาท และสีผึ้งมหาราข ใส่ไว้ในพานเพื่อบูชาครู เป็นเวลา 3 วัน เมื่อครบกำหนดแล้ว สิ่งสำคัญที่อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ กำชับให้ผู้บูชากระทำก่อนนำสีผึ้งมาใช้คือ ให้นำเงิน12บาทในพานนั้นไปเป็นส่วนหนึ่งของการทำทานใดๆก็ได้ หรือมอบให้คนที่เดือดร้อน โดยอาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ได้ให้คติธรรมชวนคิดไว้ว่า "หากเราปรารถนาจะได้ลาภผลและความรักจากผู้อื่น เราต้องรู้จักรักและให้ผู้อื่นก่อน เราจึงจะได้สิ่งเหล่านั้นกลับมา คนเราจะยิ่งใหญ่ได้ต้องเกิดจากการให้ ไม่ได้เกิดจากการรับ ถึงจะได้รับการสรรเสริญให้เป็นมหาราชผู้อยู่เหนือและยิ่งใหญ่กว่าสามัญชน"
ตลับสุดยอดพิเศษ (สร้าง 4 ตลับ, บูชา 16,000 บาท)
ฝาตลับจารด้วยยันต์ "นะอิธะเจ" และ "หงส์ทอง" สถิตอยู่ที่ใดก็จักมีความเจริญบังเกิดขึ้นที่นั่น
ด้านในตลับเพิ่มของพิเศษดังนี้:
1. ตะกรุดทองคำ
-ด้านหนึ่งลงด้วยยันต์ "นะตัวยอด" โดยอาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ มีอานุภาพในทางเมตตาและเสน่ห์เป็นยอดสมชื่อ วิชานี้อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ได้ร่ำเรียนมาจากก๋งของท่าน ถือเป็นวิชาประจำตระกูลที่ตกทอดกันมาเป็นรุ่นๆหลายชั่วอายุคน
ส่วนอีกด้านหนึ่งลงด้วยยันต์ "สาริกาป้อนเหยื่อ" โดยพระอาจารย์โอ พุทโธรักษา มีพลานุภาพโดดเด่นเรื่องโชคลาภ เงินทอง โภคทรัพย์ และเมตตามหาเสน่ห์อย่างเอกอุ ในตำราว่าไว้ว่าใครมีตะกรุดสาริกาป้อนเหยื่อนั้นเป็นผู้ฆ่าไม่ตาย ไปไหนก็ย่อมได้รับความเมตตาจากแรงสิเน่หาของตะกรุด
2. ตะกรุดพระยันต์มหาราช
-อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ท่านได้มอบเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ "ยันต์มหาราช" ไว้ว่า ลำดับพยัญชนะภาษาสันสกฤตนั้นมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวเอง เพราะแสดงถึงภูมิปัญญาในเรื่องสัทศาสตร์ของชาวอินเดียโบราณ
วรรค ก - กะ ขะ คะ ฆะ งะ วรรคนี้เรียกว่า กัณฐยะ ฐานเสียงอยู่ที่คอ
วรรค จ - จะ ฉะ ชะ ฌะ ญะ วรรคนี้เรียกว่า ตาลวยะ ฐานเสียงอยู่ที่เพดานปาก
วรรค ฏ - ฏะ ฐะ ฑะ ฒะ ณะ วรรคนี้เรียกว่า มูรธันยะ ฐานเสียงอยู่ที่เหงือก
วรรค ต - ตะ ถะ ทะ ธะ นะ วรรคนี้เรียกว่า ทันตยะ ฐานเสียงอยู่ที่ฟัน
วรรค ป - ปะ ผะ พะ ภะ มะ วรรคนี้เรียกว่า โอษฐยะ ฐานเสียงอยู่ที่ริมฝีปาก
อย่างยันต์มหาราชนี้ ลักษณะตัวของยันต์ประกอบขึ้นจากตัวอักขระ "ญะ งะ นะ มะ" ซึ่งเป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของแต่ละวรรคคือ ถือเป็นพยัญชนะที่เป็นตัวคุณสมบัติสูงสุด ที่อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ท่านเรียกว่า "มหาปราณ"
ตัวอักขระ "ญะ งะ นะ มะ" จึงถือเป็นพยัญชนะตัวสรุปที่รวมไว้ซึ่งชื่อนามของบุคคลทั้งหลายในโลก ส่วนตรงกลางยันต์คือตัว "อุ" ลงไว้เป็นศูนย์จันทร์ เพื่อให้เป็นประธานแห่งแสงสว่าง
“พระยันต์มหาราช” คือที่สุดแห่งเสน่ห์ชั้นสูงและเจริญรุ่งเรืองชั้นยอด ผูกดวงชะตาคู่รักให้ชื่นมื่นชีวีวัน เมื่อกล่าวถึง “ยันต์มหาราช” ครูบาอาจารย์ส่วนมากที่เชี่ยวชาญในยันต์ทั้ง5นี้ จะยกย่องให้ยันต์มหาราชเป็นเสมือน“พระเอก” แห่งยันต์ทั้ง5 (ปถมัง, มหาราช, อิธิเจ, ตรีนิสิงเห และ พุทธคุณ) ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่มีความหลากหลาย ว่าด้วยกลบทต่างๆที่แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบตามแต่ผู้ที่ร่ำเรียนมาต้องการจะเน้นให้พุทธคุณสำแดงออกมาไปในทางใดเป็นหลัก ซึ่งพระยันต์มหาราชแบบนี้ เป็นแบบที่เน้นไปในทาง “เสน่ห์ชั้นสูง” และ “เจริญรุ่งเรือง” เป็นหลัก และที่สำคัญเป็นวิชาเสน่ห์ที่ไม่มีอาถรรพ์ทางด้านขวางทรัพย์อีกด้วย ว่ากันว่ายันต์มหาราชแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้ “ผูกดวงชะตาของคู่รัก”ตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อให้ชายหญิงได้ครองคู่กันอย่างเป็นสุข ซึ่งจะมีกรรมวิธีในการเรียกสูตรที่ค่อนข้างยุ่งยากสลับซับซ้อนกว่าแบบอื่นมากนัก
3. สีผึ้งเขียวศาสตราเพทเวทย์สวรรค์
-เป็นสีผึ้งเขียวชุดที่มีความเข้มข้นและมีฤทธิ์รุนแรงที่สุดเท่าที่พระอาจารย์โอเคยจัดสร้างมา
ตลับพิเศษสุด (สร้าง 69 ตลับ, บูชา 1,600 บาท)
ฝาตลับจารด้วยยันต์ "อะ กะ อัง" โดยมีนัยยะว่า "อะ" เป็นที่ตั้ง และ "อัง" เป็นที่สุด ยันต์นี้จึงเป็นที่ตั้งแห่งความปรารถนาและเป็นที่สุดของความสมปรารถนา ด้วยเหตุที่ว่าเมื่อมนุษย์ผู้ใดที่มีความปรารถนาต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นที่สุด ก็ย่อมง่ายที่จะสำเร็จและได้สิ่งนั้นมาในที่สุด
ด้านในตลับเพิ่มของพิเศษดังนี้:
1. ตะกรุดพระยันต์มหาราช
-อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ท่านได้มอบเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ "ยันต์มหาราช" ไว้ว่า ลำดับพยัญชนะภาษาสันสกฤตนั้นมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวเอง เพราะแสดงถึงภูมิปัญญาในเรื่องสัทศาสตร์ของชาวอินเดียโบราณ
วรรค ก - กะ ขะ คะ ฆะ งะ วรรคนี้เรียกว่า กัณฐยะ ฐานเสียงอยู่ที่คอ
วรรค จ - จะ ฉะ ชะ ฌะ ญะ วรรคนี้เรียกว่า ตาลวยะ ฐานเสียงอยู่ที่เพดานปาก
วรรค ฏ - ฏะ ฐะ ฑะ ฒะ ณะ วรรคนี้เรียกว่า มูรธันยะ ฐานเสียงอยู่ที่เหงือก
วรรค ต - ตะ ถะ ทะ ธะ นะ วรรคนี้เรียกว่า ทันตยะ ฐานเสียงอยู่ที่ฟัน
วรรค ป - ปะ ผะ พะ ภะ มะ วรรคนี้เรียกว่า โอษฐยะ ฐานเสียงอยู่ที่ริมฝีปาก
อย่างยันต์มหาราชนี้ ลักษณะตัวของยันต์ประกอบขึ้นจากตัวอักขระ "ญะ งะ นะ มะ" ซึ่งเป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของแต่ละวรรคคือ ถือเป็นพยัญชนะที่เป็นตัวคุณสมบัติสูงสุด ที่อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ท่านเรียกว่า "มหาปราณ"
ตัวอักขระ "ญะ งะ นะ มะ" จึงถือเป็นพยัญชนะตัวสรุปที่รวมไว้ซึ่งชื่อนามของบุคคลทั้งหลายในโลก ส่วนตรงกลางยันต์คือตัว "อุ" ลงไว้เป็นศูนย์จันทร์ เพื่อให้เป็นประธานแห่งแสงสว่าง
“พระยันต์มหาราช” คือที่สุดแห่งเสน่ห์ชั้นสูงและเจริญรุ่งเรืองชั้นยอด ผูกดวงชะตาคู่รักให้ชื่นมื่นชีวีวัน เมื่อกล่าวถึง “ยันต์มหาราช” ครูบาอาจารย์ส่วนมากที่เชี่ยวชาญในยันต์ทั้ง5นี้ จะยกย่องให้ยันต์มหาราชเป็นเสมือน“พระเอก” แห่งยันต์ทั้ง5 (ปถมัง, มหาราช, อิธิเจ, ตรีนิสิงเห และ พุทธคุณ) ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่มีความหลากหลาย ว่าด้วยกลบทต่างๆที่แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบตามแต่ผู้ที่ร่ำเรียนมาต้องการจะเน้นให้พุทธคุณสำแดงออกมาไปในทางใดเป็นหลัก ซึ่งพระยันต์มหาราชแบบนี้ เป็นแบบที่เน้นไปในทาง “เสน่ห์ชั้นสูง” และ “เจริญรุ่งเรือง” เป็นหลัก และที่สำคัญเป็นวิชาเสน่ห์ที่ไม่มีอาถรรพ์ทางด้านขวางทรัพย์อีกด้วย ว่ากันว่ายันต์มหาราชแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้ “ผูกดวงชะตาของคู่รัก”ตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อให้ชายหญิงได้ครองคู่กันอย่างเป็นสุข ซึ่งจะมีกรรมวิธีในการเรียกสูตรที่ค่อนข้างยุ่งยากสลับซับซ้อนกว่าแบบอื่นมากนัก
ตลับพิเศษ (สร้าง 300 ตลับ, บูชา 600 บาท)
ฝาตลับจารด้วยยันต์ "นะลือชา" ซึ่งในโลกของเวทย์มนต์คาถา ตั้งแต่ครั้งอดีตถึงปัจจุบัน “นะฦๅชา” ถือเป็นยอดวิชาที่ขึ้นชื่อทางด้านเมตตามหานิยม, โชคลาภค้าขาย, และเสน่ห์เลื่องลือ เชื่อถือกันมากว่าอักขระ “ฦๅ” มีความเข้มขัลงศักดิ์สิทธิ์ในตัว สถิตอยู่ที่ใดที่แห่งนั้นก็จะมีแต่สิ่งดีงามเลื่องลือระบือนาม ซึ่งในแต่ละสำนักที่มีชื่อเสียงว่าเป็นของจริงแท้แน่แล้ว ล้วนแล้วแต่มี “วิชานะฦๅชา” กันทั้งนั้น
ด้านในตลับเพิ่มของพิเศษดังนี้:
1. ดอกกุหลาบบูชาพระแม่มารีจี
-เป็นดอกกุหลาบที่อาจารย์ณัฐธัญ มณีรัตน์ ได้ถวายเป็นพุทธบูชาแด่ พระแม่มารีจี หรือ "พระอนุตตรธรรมมารดร" พระแม่องค์ธรรมเป็นผู้เปิดเผยธรรมะแก่ศาสดาทั้งหลาย ทางธิเบตเรียกท่านว่า พระแม่แห่งทรัพย์สมบัติโลก
มีเรื่องเล่าว่า "ศรีนิวาสะ ไอเยนการ์ รามานุจัน" นักคณิตศาสตร์ระดับตำนานชาวอินเดีย ผู้สร้างงานวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ ทฤษฎีบทต่างๆ ทางทฤษฎีจำนวน อนุกรมอนันต์ เศษส่วนต่อเนื่อง และสูตรทางคณิตศาสตร์มากกว่า 3,000 สูตร โดยที่เขาไม่เคยรับการศึกษาด้านคณิตศาสตร์อย่างเป็นทางการ และเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำไป จนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกต่างยกย่องและนับถือว่าเขาเป็นหนึ่งในนักคณิตศาสตร์ที่อัจฉริยะที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาตร์ หลายคนเชื่อว่าอัจฉริยะภาพของเขาเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความเมตตาของพระแม่มารีจี ที่ได้มอบ "ปัญญาสมบัติ" ให้แก่เขานั่นเอง
รับชมรูปภาพและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ
Please Click The Link Below For More Informations & Photos.
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=Barameepokae.shop&set=a.1121466801325255