แม่ตะเคียนร่ำไร, พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์
“นางตะเคียน” ถือเป็นเทพธิดาชั้นภุมมา คือยังคงมีกามกิเลส ความต้องการอยู่ พระอาจารย์โอท่านชวนมาร่วมสร้างกุศลเพื่อเพิ่มบุญ โดยการช่วยเหลือสงเคราะห์มนุษย์ตามกำลัง ผู้บูชาสามารถขอโชคลาภวาสนา หรือความรัก ทำมาค้าขายติดต่อเจรจา ก็ง่ายและประสบผลสำเร็จ สิ่งใดที่ปรารถนาก็จะสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น
มีเรื่องมหัศจรรย์ที่คงเป็นมากกว่าคำว่าบังเอิญเกี่ยวกับแม่ตะเคียนรุ่นนี้อยู่ กล่าวคือรูปลักษณ์ของแม่ตะเคียนร่ำไรนี้หาได้เกิดจากความต้องการของพระอาจารย์โอไม่ แต่หากเกิดจากความต้องการของนางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในเสาตะเคียนตกน้ำมัน เรื่องมีอยู่ว่าในตอนที่พระอาจารย์โอได้บอกให้คุณนางนำเสาไม้ตะเคียนตกน้ำมันไปแกะเป็นรูปของแม่ตะเคียนและอื่นๆนั้น พอคุณนางได้นำไม้ไปให้ช่างแกะสลักดู คุณนางก็ได้อธิบายคร่าวๆถึงลักษณะและรูปทรงของชิ้นงานต่างๆที่ต้องการให้ช่างทำการแกะสลักออกมา คือให้แกะไม้ตะเคียนเป็นปู่เจ้าสมิงพรายมีกายฤาษีและมีหัวเป็นเสือ แกะเป็นนางกวักนั่งพับเพียบมือขวากวักเสมอปาก ส่วนแม่ตะเคียน คุณนางก็นึกไม่ออกว่าจะให้แกะเป็นรูปทรงลักษณะอย่างไรดี รู้แต่ว่าต้องเป็นรูปผู้หญิง จึงบอกกับช่างว่าแล้วแต่จินตนาการของช่างจะแกะออกมาก็แล้วกัน
อยู่มาวันหนึ่งพระอาจารย์โอนิมิตว่านางตะเคียนได้มาบอกว่าถึงรูปลักษณ์แทนตนที่นางตะเคียนต้องการ ในนิมิตนั้นนางตะเคียนเป็นหญิงผมยาวหน้าตาสะสลวยประทินโฉมหน้าด้วยเครื่องสำอางค์ ไร้ผ้าผ่อนปกปิดเรือนร่าง อวดทรวดทรงองเอวที่ชายใดเห็นเป็นต้องหยุดกระพริบตา กำลังนั่งอยู่ในท่าทางสง่างาม และเมื่อคุณนางได้ไปหาช่างแกะสลักเพื่อรับชิ้นงานในวันนัดหมาย ช่างแกะสลักก็ได้เล่าให้คุณนางฟังว่าในตอนแรกตัวเขาเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะแกะแม่ตะเคียนให้ออกมาในรูปแบบไหน แต่พอถึงเวลาเหมือนกับว่ามือมันแกะสลักไปเองอย่างพริ้วไหว จนสำเร็จออกมาเป็นอย่างที่เห็น
หลังจากนั้นคุณนางได้นำเอานางตะเคียนมาถวายพระอาจารย์โอ พอพระอาจารย์โอเห็นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะนางตะเคียนที่ช่างแกะมานั้น ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับนางตะเคียนที่พระอาจารย์โอเห็นในนิมิตก่อนหน้านี้ จึงได้ข้อสรุปอย่างไม่มีข้อสงสัยว่านี่คือรูปลักษณ์แท้จริงของนางตะเคียนที่ต้องการแสดงออกมาเป็นรูปธรรมให้ผู้ที่ศรัทธาได้ระลึกนึงถึงเมื่อต้องการ
ไม้ตะเคียนร่ำไร
ไม้ตะเคียนที่พระอาจารย์นำมาเป็นมวลสารนี้ มีตำนานเล่าขานถึงความเฮี้ยนอยู่คือ ณ บ้านเรือนไทยโบราณหลังหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เสากลางบ้านเป็น “ไม้ตะเคียนตกน้ำมัน” ที่มักแสดงฤทธิ์เดชให้เจ้าของบ้านรวมถึงลูกหลานที่อาศัยอยู่อกสั่นขวัญหนีอยู่บ่อยๆครั้ง อาทิเช่น เห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยเดินอยู่ในบ้านบ้าง, ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้กลางดึกบ้าง หรือ ฝันว่ามีผู้หญิงในชุดโบราณมาบอกว่าอยากได้โน่นอยากได้นี่บ้าง จนในที่สุดลูกหลานก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เพราะทนความเฮี้ยนของไม้ตะเคียนตกน้ำมันนี้ไม่ไหว ท้ายสุดจึงเหลือเจ้าของบ้านอาศัยอยู่เพียงลำพัง เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เจ้าของบ้านก็ได้เสียชีวิตลง มรดกต่างๆรวมถึงกรรมสิทธิ์แห่งการเป็นเจ้าของบ้านนี้ จึงตกสู่ลูกหลานตามพินัยกรรม
แต่ด้วยประสบการณ์อันขนหัวลุกที่ลูกหลานต่างเคยประสบพบเจอมาในบ้านหลังนี้ ลูกหลานจึงลงความเห็นว่าจะขายบ้านหลังนี้ให้แก่ผู้ที่สนใจในราคาที่ไม่แพง ซึ่งพอลงประกาศขายได้ไม่นาน ก็มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ได้มีการตกลงซื้อขายกันอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีเหตุต่างๆทำให้ทำการซื้อขายกันไม่สำเร็จเป็นทุกครั้งไป ลูกหลานจึงได้สรุปลงความเห็นกันว่าจะนิมนต์พระมาสวด แล้วจัดการลื้อบ้านเรือนไทยหลังนี้เสีย แล้วค่อยปลูกบ้านหลังใหม่ทับที่ดินเดิม ซึ่งปรากฏว่าก่อนที่บ้านหลังนี้จะถูกลื้อ เหล่าลูกหลานได้ฝันเห็นตรงกันว่ามี นางตะเคียน เดินออกมาเสาตกน้ำมัน พร้อมกับร้องไห้ด้วยเสียงโหยหวนเกินพรรณนา ท้ายที่สุดแผนในการลื้อบ้านเรือนไทยหลังนี้จึงถูกยกเลิกไปเพราะ ลูกหลานทุกคนต่างก็กลัวว่าหากทำการลื้อบ้านแล้ว อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันกับตนขึ้นได้
เวลาผ่านล่วงเลยไป บ้านเรือนไทยหลังนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างนานแรมปี เนื่องจากไม่มีใครกล้ามาอยู่ และแล้ววันหนึ่ง คุณนาง ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าของบ้านคนเก่าก็ได้ฝันว่า “มีผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณหน้าตาสละสลวยเดินออกมาจากเสาบ้าน แล้วบอกว่ารู้สึกเหงามาก อยู่คนเดียวมานานแล้ว ขอให้ช่วยพาไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นได้มั้ย” พอคุณนางตื่นขึ้นมาก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงใส่ชุดไทยที่มาเข้าฝันเมื่อวานต้องเป็นนางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในเสาตกน้ำมันต้นนั้นแน่ๆ ซึ่งคุณนางได้ฝันเช่นนี้ติดๆกันอยู่หลายๆครั้ง จนในที่สุดคุณนางจึงตัดสินใจ ย้ายเสาตเคียนตกน้ำมันต้นนั้น ไปฝากไว้กับบ้านญาติที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่นตามความต้องการของนางตะเคียนที่มานิมิตบอกในฝัน
เมื่อเสาตะเคียนตกน้ำมันต้นนั้น ถึงบ้านญาติของคุณนางที่จังหวัดขอนแก่นเรียบร้อยแล้ว ทางญาติก็ผูกผ้าสามสี จัดเครื่องเซ่นไหว้อย่างดี เพราะส่วนตัวญาติของคุณนางก็เชื่อเรื่องแบบนี้ และได้ยินกิตติศัพท์ความไม่ธรรมดาของเสาตะเคียนตกน้ำมันต้นนี้มานานแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็ถูกหวยอยู่สองงวดติดเลยทีเดียว แต่พอเวลาผ่านไปประมาณ2เดือนเห็นจะได้ ปรากฏว่าญาติของคุณนางได้ฝันว่า นางตะเคียนที่อยู่ในเสาตกน้ำมัน มาบอกว่าอยากกลับไปอยู่ที่นครปฐมเหมือนเดิม เพราะทนเสียงโหวกเหวกโวยวายของสามีและเพื่อนๆที่มากินเหล้าสังสรรค์กันแทบทุกวันไม่ไหวแล้ว พอคุณนางได้ยินแบบนี้ก็เลยตัดสินใจนำเสาตะเคียนตกน้ำมันต้นนั้นกลับไปไว้ที่บ้านเรือนไทยในจังหวัดนครปฐมดังเดิม
แต่เมื่อเสาตะเคียนตกน้ำมันต้นนั้นได้ถูกย้ายกลับไปที่นครปฐมเรียบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปไม่นาน นางตะเคียนก็ไปเข้าฝันคุณนางอีกว่า อยู่คนเดียวเหงามาก ช่วยพากลับไปที่จังหวัดขอนแก่นหน่อย คุณนางเลยปวดหัวจนปัญญากับเรื่องนี้ จึงตัดสินใจเดินทางไปปรึกษาขอคำแนะนำจากท่านพระอาจารย์โอ
เมื่อพระอาจารย์โอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว คุณนางจึงนิมนต์พระอาจารย์โอไปที่บ้านของเธอเพื่อช่วยติดต่อสื่อสารกับนางตะเคียนให้หน่อยว่ามีความต้องการอย่างไรกันแน่ พอเท้าของพระอาจารย์โอเหยียบลงบนบ้านเรือนไทยของคุณนางปุ๊ป ปรากฏว่าก็มีเสียงไม้ลั่นดังเปรี้ยะขึ้นมาทันที เหมือนเป็นสัญญาณให้ทราบว่านางตะเคียนได้รับรู้ถึงการมาของพระอาจารย์โอในครั้งนี้ พระอาจารย์โอได้พูดขึ้นมาว่า “อยากจะไปร่วมบุญกันหรือเปล่า ถ้าไม่อยากมาก็เฉยๆไว้ แต่ถ้าอยากมาร่วมบุญก็ขอให้นิมิตบอกเจ้าของบ้านแล้วกัน” ในคืนนั้นคุณนางได้ฝันว่านางตะเคียนได้มาบอกเลขเด็ด และพอไปซื้อหวยก็ถูก ได้โชคได้เงินมาจริงๆ คุณนางก็เลยกราบเรียนให้พระอาจารย์โอทราบว่านางตะเคียนมาให้โชค สงสัยจะอยากไปร่วมบุญกับพระอาจารย์
ซึ่งประจวบเหมาะพอดี เพราะพระอาจารย์โอมีความตั้งใจอยากจะสร้างวัตถุมงคลจากไม้ตะเคียนอาถรรพ์อยู่แล้ว เนื่องจากในตำราได้มีการระบุไว้ว่าไม้ตะเคียนอาถรรพ์ถือเป็นมวลสารสุดยอดที่สุดสำหรับการสร้างปู่เจ้าสมิงพรายหรือแม่ตะเคียน พระอาจารย์โอจึงกล่าวกับคุณนางว่า “หากจะยกเสาตะเคียนตกน้ำมันต้นนั้นมาทั้งต้น ฉันคงไม่สะดวกเก็บรักษาเพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ถ้าอยากให้นางตะเคียนมาร่วมบุญกับฉัน ก็ต้องร่วมบุญกับลูกศิษย์ฉันและผู้ศรัทธาทุกๆคนด้วย เธอจงเอาเสาตะเคียนตกน้ำมันนี้ไปแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆแกะสลักให้เป็นรูปขององค์ปู่เจ้าสมิงพราย, นางตะเคียน และนางกวักให้สวยงาม แล้วฉันจะสร้างวัตถุมงคลให้คนนำไปบูชา นางตะเคียนจะได้อานิสงค์จากการช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นอีกทางหนึ่ง”
น้ำมันนางปลาเสน่หา
-เลี่ยมอยู่ใน “น้ำมันนางปลาเสน่หา” ซึ่งมีส่วนผสมของสุดยอดมวลสารในตำนานที่เชื่อกันว่าเปรียบเสมือนเป็นน้ำตาของนางเงือกที่มีฤทธิ์ช่วยให้ผู้ที่ครอบครองได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนาและอธิษฐานไว้ทุกประการ เป็นของอาถรรพ์ที่มีประวัติความเป็นมาช้านาน ว่ากันว่าน้ำมันนางปลาเสน่หานี้มีอานุภาพรุนแรงถึงขนาดว่าสามารถทำให้บุคคลที่หมายปองคลั่งรักจนยอมว่ายน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมาหา อย่างรวดเร็วเหมือนดั่งนางเงือกเลยทีเดียว
ในบรรดาของเสน่ห์ทั้งหลายทั้งปวง น้ำมันนางปลาเสน่หาถือว่าเป็นของแนวหน้าของบรรเสน่ห์ทางแดนใต้ทั้งหมด ที่ขึ้นชื่อมากว่าด้วยความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่งโชคลาภวาสนาเงินทอง และเป็นเสน่ห์เป็นที่พึงอกพึงใจแก่ผู้ที่พบเห็นและผู้ที่ปรารถนา มีอานุภาพเหนือของเสน่ห์ทั้งมวลและข่มของเสน่ห์ทั้งหมดอีกด้วย
น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง
-พิเศษไปกว่านั้นคือพระอาจารย์โอได้ผสม “น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง” ที่พระอาจารย์โอได้ใช้แช่นำพระเครื่องวัตถุมงคลของเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆมากมายในโหลแก้ว ซึ่งว่ากันว่าถ้านับมูลค่าของพระเครื่องและของวิเศษต่างๆในโหลนี้รวมกันแล้ว 10ล้านบาทก็เอาไม่อยู่ เป็นวัตถุมงคลที่ท่านพระอาจารย์เก็บสะสมมาทั้งชีวิต ซึ่งแต่ละองค์ก็ล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่โจษจันและเป็นที่เสาะแสวงหากันในแวดวงนักสะสมพระเครื่องทั้งสิ้น
สุดยอดตะกรุดทั้ง5ชนิดที่ถูกเลี่ยมพร้อมกับปู่เจ้าสมิงพรายประกอบไปด้วย:
1.ตะกรุดที่ขึ้นชื่อว่าเจริญทางเสน่ห์ที่สุด
2.ตะกรุดที่ขึ้นชื่อว่าเจริญทางโชคลาภที่สุด
3.ตะกรุดรักโชคขโมยดวง
4.ตะกรุดมหาเสน่ห์มหาลาภ
5.ตะกรุดสาริกาเล่นคลื่น
Crying Ta-Khian Angel by Phra Arjarn O, Phetchabun.
“Ta-Khian Angel” is the angle from 1st floor of the heaven that still has desires and want. Phra Arjarn O invited her to make merit by helping people as much as she can. Therefore, the owner can pray for luck and love. Business or negotiation will be easier and successful. Whatever you wish will be successful faster also.
There is the strange story that is beyond contingency about this Crying Ta-Khian Angel. In fact, the model of her is not come from Phra Arjarn O’s decision but, it comes from the personal want of Ta-Khian Angel who remains inside the house pillar that always having oil exude out. The story is that when Phra Arjarn O told Mrs.Nang to bring crying Ta-Khian wood to the woodcraftsman to carve the wood to be Nang Ta-Khian and others model such as Pujaw Samingprai and Nang Kwak. Mrs.Nang briefly explained the model she want to the woodcraftsman but, for Nang Ta-Khian she could not explain how the model should be so, she told the woodcraftsman to carve it by using his own imagine.
One day, Phra Arjarn O had the omen that Nang Ta-Khian expressed her want by showing the picture of the model she wanted to be as a beautiful long hair woman without dressing. When the woodcraftsman finished his work, Mrs.Nang went to pay money and get the work from the woodcraftsman. The woodcraftsman told Mrs.Nang that firstly he also had no idea what is the model that suitable to be Nang Ta-Khian but, when he started to carve the wood, his hand and his mind automatically carved it until finished to be Nang Ta-Khian which has model like this.
After that, Mrs. Nang took Nang Ta-Khian that was carved from “Crying Ta-Khian Wood” to Phra Arjarn O. When Phra Arjarn O saw the model of Nang Ta-Khian, he felt surprised a bit because the model of Nang Ta-Khian is similar the model that Phra Arjarn O saw in the omen. Therefore, this model is the actual concrete object that Nang Ta-Khian want the believers to think of her whenever they want some helps.
Crying Ta-Khian Wood.
Phra Arjarn O got the house pillar that always having oil exude out from a woman who begged Phra Arjarn O for help. This house pillar is special because it was made from “Hopea odorata” or Thai people call “Ta-Khian”. Especially, this pillar has wood fairy or “Nang Ta-Khian” remain inside. Nang Ta-Khian always made the house owner became frightened. Sometimes, the house owner heard scary sound like as woman is crying also.
In the magic scripture said that the mystical wood like this is the best material for making the powerful amulet especially Pujaw Samingprai, Nang Ta-Khian or Nang Kwak.
Charming Mermaid Oil.
-Crying Ta-Khian Angel was encased in the “Charming Mermaid Oil” which referred to the mermaid’s tear. This oil is very popular since the past until now that it is very strong in case of charm. This oil is so powerful until it can attract the lover swim across the sea to meet the owner of this oil.
Due to charming amulets, “Charming Mermaid Oil” is one of the top most charming oil of the southern part. People believe that this oil will bring luck and money to the owner. It also strengthen charming look and suppress others charming amulet too.
High Class Holy Oil.
-Moreover, Phra Arjarn O also added “High Class Holy Oil” that Phra Arjarn O used to soak many famous amulets from many well-known masters in the jar. If all amulets in this jar were evaluated to be price, there will be more than 10million baht already because all of these amulets are Phra Arjarn O’s collection that Phra Arjarn O has spent his whole life to collect one by one. Each amulet has absolute power that every amulet collector praise and want to have all the time.
There are 5 types of special Takrud in the casing with Pujaw Samingprai:
1.Great Charming Takrud.
2.Great Wealthy Takrud.
3.Luck Stealing Takrud.
4.Lucky & Loving Takrud.
5.Salika Surfs Wave Takrud.
|