รายละเอียด:
ตะกรุดพญาเหาคำคุ้มเกล้าจอมขวัญ ครูบาฐากูร วัดแม่แพะ จ.เชียงใหม่
สุดยอดวิชาทางเมตตาโภคทรัพย์ที่มีอุปเท่ห์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากตำนานล้านนาเมืองเหนือที่เก่าแก่จนเกือบสาบสูญ จึงหาผู้สืบสานได้ยากยิ่งในปัจจุบัน มีสิทธิคุณทางด้านเมตตามหานิยมดุจเหารักเกษา มัดจิตผูกใจผู้คนทั้งหลายให้เกิดความโอบอ้อมอารี
ใช้พกพาอาราธนาติดตัวเป็นที่รักใคร่ของมนุษย์และเทวดา ใช้เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านายก็จะได้รับความเมตตาเอ็นดู เอ่ยวาจาขอสิ่งใดกับผู้ใดมักไม่พลาด เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากผู้ใดก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เป็นตะกรุดชั้นสูงที่ผู้คนในอดีตยกย่องเชื่อถือกันมาก นิยมพกพาแอบซ่อนไว้ที่หัวไม่ให้ใครเห็น ลองพิจารณาดูเถิด หากไม่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์จริง คงไม่มีใครนำไปพกไว้บนศรีษะซึ่งเป็นที่สถิตของ “ขวัญ” อันเป็นศูนย์รวมของสง่าราศรีและยังเป็นวิมานสถิตของเทวดาประจำกายของตนเองอย่างแน่นอน
มีบางตำนานกล่าวถึงความเป็นมาของวิชานี้ไว้ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วได้มีผู้ยาจกวนิพกผู้หนึ่ง ที่แม้จะมีชีวิตแสนจะแร้นแค้นยากลำบาก แต่ก็เป็นคนใจบุญสุนทาน มีจิตใจเมตตาอารีต่อสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายดุจโพธิสัตว์ ถึงขนาดยอมให้เหาอาศัยอยู่บนหัวตัวเอง ไม่ได้กำจัดขับไล่หรือเข่นฆ่าเหาเหล่านั้นอย่างที่มนุษย์ทั่วไปจะทำกัน และแล้ววันหนึ่งเทพเทวดาผู้มีฤทธิ์ได้มาทดสอบถึงคุณธรรมของยาจกผู้นี้ด้วยตนเอง
เมื่อผ่านบททดสอบ เทพเทวดาเห็นว่าเขามีคุณสมบัติที่จะได้รับของวิเศษที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล จึงได้ทำการเสกเหาวิเศษตัวหนึ่งให้ประทับอาศัยอยู่บนหัวของยาจกผู้นั้น ซึ่งเหาตัวนี้เป็นเหาพิเศษ มีลักษณะทางกายภาพที่สง่างาม และมีผิวกายเป็นทองคำ ต่างจากเหาทั่วๆไป เมื่อพญาเหาคำได้สถิตรักษาณเกศเกล้าจอมขวัญของยาจกผู้นั้น บรรดาเหาทั้งหลายที่เคยอาศัยอยู่แต่ก่อนก็พากันย้ายออกไปอย่างเป็นระเบียบ เหลือแต่เพียงพญาเหาคำตัวเดียวเท่านั้น
โดยพญาเหาคำตัวนี้ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อภินิหาร พลิกชีวิตของยาจกให้กลับกลายเป็นคหบดีผู้มั่งคั่งในระยะเวลาอันสั้น กล่าวคือตั้งแต่พญาเหาคำได้อาศัยอยู่บนหัวของยาจกใจบุญ ไม่ว่ายากจกผู้นี้จะไปขอทานที่ไหน ขอสิ่งใดจากผู้ใด ก็จะได้รับความรักความเมตตาจากผู้ให้อย่างอัศจรรย์ ถ้ายาจกทั่วไปก็คงได้แค่เหรียญสตางค์ แต่ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์แห่งพญาเหาคำ ทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างนำของมีค่า หรือแม้แต่ทองคำมาให้ยาจกผู้นี้ไม่เคยขาด
หลังจากนั้นยาจกใจบุญผู้มีพญาเหาคำคุ้มเกล้า ก็ได้นำทรัพย์สมบัติที่ได้มาตั้งตั้วประกอบสัมมาอาชีพจนประสบความสำเร็จ และเป็นคหบดีผู้มั่งคั่งในที่สุด เป็นคหบดีที่ไม่ลืมกำพืดตน มีผู้คนยกย่องสรรเสริญจวบจนเขาสิ้นอายุขัย เพราะนอกจากจะเป็นผู้รวยทรัพย์แล้ว ยังเป็นผู้รวยบุญ ตลอดชีวิตของเขาได้ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อต่อผู้คนที่ยากไร้ และนำปัจจัยของตนทำนุบำรุงวัดวาอาราม สืบสานรักษาพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั่นเอง ด้วยตำนานเรื่องเล่าที่กล่าวมานี้ โบราณจารย์และพระเกจิล้านนาจึงนำมาเป็นอุปเท่ห์ รจนาขึ้นเป็นวิชาพญาเหาคำและสืบทอดส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการสร้าง "ตะกรุดพญาเหาคำคุ้มเกล้าจอมขวัญ" นี้ ครูบาฐากูรได้นำแผ่นโลหะทองแดง มาจารเลขยันต์อักขระตามตำราแบบเต็มสูตร พร้อมเรียกสูตรเรียกนามในฤกษ์ยามเฉพาะ ถือเคล็ดว่า "ทองแดง" คือโลหะธาตุประจำดาวศุกร์ ดวงดาวแห่งความรัก จึงถือเป็นธาตุแห่งความสุข มีเสน่ห์ในตัว ซึ่งตามศาสตร์ความเชื่อของฝรั่ง ในสายเล่นแร่แปรธาตุก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน
เสร็จแล้วจึงทำการม้วน ก่อนจะนำไปพอกด้วยสารพัดผงวิเศษ ผงพุทธคุณ ทางด้านเมตตามหานิยมสุดบรรยาย มีทั้งผงลบกระดานจากตับวิชาทางเสน่หาของล้านนา, ผงว่านยาทางมหานิยมชุ่มเย็น, และผงพุทธคุณที่ครูบาฐากูรได้ทำพิธีพลีมาจากพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านรวบรวมสะสมไว้
และที่พิเศษสุดคือ "ผงยาเหาคำ" เป็นผงยาเก่าที่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนได้สร้างไว้ตามวิชาพญาเหาคำ ประกอบด้วยเครื่องยามากมายที่เป็นสูตรเฉพาะของทางล้านนา ใช้ได้สารพัดทาง ครูบาอาจารย์สมัยก่อนนิยมนำมาสักที่หัวให้ลูกศิษย์ ว่ากันว่ามีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ต้นตำนานเลยทีเดียว
ซึ่งครูบาฐากูรต้องนำผงทั้งหมดนี้มาบดด้วยกรรมวิธีพิเศษหลายขั้นหลายตอน จนกระทั่งผงมวลสารทั้งหมดมีความละเอียดถึงที่สุด ท่านว่าหากบดไม่ละเอียดพอ เวลานำมาพอกตะกรุดจะทำให้พื้นผิวตะกรุดไม่เรียบลื่นสวยงาม หากผิวตะกรุดขรุขระขึ้นเม็ดก็จะไม่สามารถจารยันต์บนตะกรุดได้
หลังจากทำการพอกผงแล้ว ครูบาฐากูรท่านได้นำตะกรุดไปลงรักปิดทองตามกรรมวิธีโบราณ แล้วจึงจารยันต์พญาเหาคำสำทับไว้ เพิ่มความเข้มขลังเป็นเท่าทวี เรียกว่า "ดีนอกดีใน" โดยทุกขั้นตอนอันละเอียดพิถีพิถันที่กล่าวมานี้ครูบาฐากูรท่านทำด้วยมือท่านเองทั้งหมดเพื่อความมั่นใจว่าวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง จะมีความงดงามในเชิงศิลป์ และมีอิทธิคุณในเชิงศาสตร์ เป็นของดีของล้ำค่า พร้อมสร้างตำนานแก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป
เคล็ดการบูชา: ผู้บูชาสามารถนำตะกรุดสอดซ่อนไว้ในเกล้าผม หรือนำมาทำเป็นกำไลข้อมือเพื่อสะดวกต่อการพกพา โดยมีเคล็ดว่าให้กลั้นใจท่องคาถา แล้วเอามือข้างที่ใส่ตะกรุดอยู่ ลูบศรีษะตนเองเบาๆ ก่อนอธิษฐานในสิ่งที่ตนเองปรารถนา
Golden Louse King Takrud by Kruba Thakoon, Mae Phae Temple, Chiang Mai Province.
The supreme magic in the field of kindness and wealth with outstanding and unique functions. From the legend of Lanna, which is old and almost lost. Therefore, it is very difficult to find a successor at present. This Takrud will help the owner to be likable and popular, the same as louse loves hair. Its magic power will tie the hearts of all people to express their generosity. Whoever has this Takrud will be endearing to humans and angels.
The worshipers can use this Takrud to receive kindness and compassion when approaching seniors and bosses. When making a request or asking for help from anyone, no one dared to refuse. It is a high-class Takrud that people in the past highly respected and trusted. They liked to carry and hide this Takrud on their heads so no one could see it. Let's consider that if this Takrud is not really strong and holy, no one would definitely carry it on their head, which is the highest place of the human body, the palace of their own deities, due to the belief of Thai people that “Hair Is The Paradise Of Angel”.
There are some legends that mention the origin of this magic. The story starts when once upon a time there was a beggar who was very poor and faced with a difficult life, but he was a philanthropist, and had a compassionate mind towards all beings, like a Bodhisattva. His kindheartedness was very high until he allowed crowded lice to live on his own head. He did not exterminate or kill those lice as normal humans would do. And then one day, a powerful angel came to test this beggar's morality.
When the beggar passed the test, the angel saw that the beggar was qualified to receive a magical gift that would change his life forever. Therefore, the angel granted him a magic louse to live on the beggar's head. This louse is a special animal because it had an elegant physical appearance and also had a shining golden body which was different from other lice. When the golden louse king stood at the beggar's head, all the lice that had lived there before moved out in an orderly manner. There was only the golden louse king left.
The golden louse king had shown its supernatural powers to turn the life of the beggar into a wealthy baron in a short period of time. That is, since the golden louse king lived on the kind-hearted beggar's head, no matter where the beggar went to beg for money or ask anything from anyone, he would receive amazing love and kindness from the givers. If he was a regular beggar, he would probably only get some coins. But, with the sacred power of the golden louse king, it always attracted people to bring valuable things or even gold to him.
After that, the philanthropist beggar who had the golden louse king supported him brought the wealth he had acquired to set up a right livelihood until he was successful and eventually became a wealthy baron. He was a rich man who never forgot his origins. People praised him until the end of his life because, in addition to being a rich person, he was still rich in merit throughout his life. He has been a generous supporter of poor people and also donate a lot of money to support and maintain temples, also continuing and preserving Buddhism all along. Therefore, the ancient masters and monks of Lanna used the legend of the Golden Louse King to create magic and pass it down from generation to generation until the present day.
For the making process of "Golden Louse King Takrud", Kruba Thakoon brought a copper metal plate to write full formula magic characters together with a special blessing for each magic character at a specific auspicious time according to scripture. Kruba Thakoon used copper metal plate to make this Takrud because "Copper" is the elemental metal of Venus, the star of love. Therefore, it is considered to be an element of happiness & charming in itself. According to the science of western belief in alchemy, there is also an emphasis on this matter.
After that, Kruba Thakoon rolled the copper metal plate to be Takrud before covering it with various kinds of charming magic powder, such as holy chalkboard powder from Lanna's charming magic subjects, herbal powder that is made of special plants which has natural power in terms of popularity and reputation, and holy powder that Kruba Thakoon made from various sacred amulets that he has collected for a long time.
And the most special material is "Golden Louse Medicine" is an old medicine powder that magic masters in the past created according to the golden louse magic. Its materials contain many holy substances that are specially formulated in Lanna. This medicine can be used in many ways. Magic masters in the past usually used it to tattoo the heads of their disciples. It is said that it is as sacred and magical as the legendary tale.
Kruba Thakoon brought all the above-mentioned powder to grind through a special process in many steps until all the mass became finely powdered. Kruba Thakoon said that if the powder is not fine enough, when applying powder to cover Takrud, the surface of Takrud will not be smooth and beautiful. If the surface of Takrud is rough, then the additional Yantra cannot be engraved on the outside surface of Takrud nicely.
After Golden Louse King Takrud was covered with magic powder completely, Kruba Thakoon took Golden Louse King Takrud to lacquer it with black varnish and gild it with gold leaf according to the ancient method and then engraved Golden Louse King Yantra to increase the strength of the magic power to be doubled. This technique is called "Good Outside, Good Inside". Every meticulous step mentioned above, Kruba Thakoon made entirely by his own hands to ensure that the sacred amulets he created would be beautiful in art and powerful in magic, perfectly completed to be a truly valuable item for the believers that will create the legend till the future generations.
Special Tips: You can hide this Takrud in your hair or adapt it into a bracelet for easy carrying. The special tips are that you need to hold your breath and chant Katha and then use the hand that you wear this Takrud to comb your head gently before praying for what you desire.