รายละเอียด:
พระปิดตาภควัม, พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์
โบราณว่าพระปิดตาภควัมคือองค์สมมุติของ "พระภควัมปติ" ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า หรือ "พระสังกัจจายน์" พระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นผู้เลิศทางปัญญาสามารถแสดงธรรมโดยพิสดาร เป็นสุดยอดพระเครื่องในตำราพิชัยสงครามที่อุดมทั้ง "ลาภผล" และ "มหานิยม" อำนวยอวยชัยให้แก่ผู้สักการะบูชา พุทธคุณเน้นไปทางเจริญรุ่งเรืองร่มเย็น เป็นเมตตามหานิยม เสน่ห์เมตตา หนุนดวงชะตา แคล้วคลาดปลอดไพรี
Phra Pidta Pakawambodee by Phra Arjarn O, Phetchabun.
There is a belief that “Phra Pidta Pakawambodee” is the representative of "Pakawambodee", he was praised to be the monk who has graceful face similar Buddha or "Katyayana", he was praised by Buddha to be the “Intelligent Buddhist Saint” who can express Dharma strangely. This amulet is the great wealthy & charming amulet that was identified in “Pichai Songkram”, the treatise on war strategy. The ability of this amulet concentrating on being secure and peaceful, exuberance, attraction, high class charm & supporting destiny.
ไม้ช่อฟ้าหนุนชะตาชั้นสูง
พระปิดตาภควัม แกะจากไม้ช่อฟ้าอุโบสถ ของวัดหนึ่งที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างมาคู่กับพระอุโบสถ ในหนึ่งวัดจะมีพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถือเป็นของดีมีพลังในตัว ซึมซับพระคาถามงคลมากมายทุกพิธีที่เกิดในอุโบสถแห่งนั้น และยังหมายถึงความสำเร็จอันสูงสุด เพราะการยกช่อฟ้าถือเป็นพิธีสำคัญมาก เนื่องจากเป็นการยกของมงคลขึ้นไปประทับที่ส่วนบนสุด เพื่อทำให้ศาสนสถานหรืออุโบสถและสิ่งก่อสร้างสำคัญนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยผู้ที่เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า ต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการสูง มักเป็นเจ้าคนนายคนหรือผู้สูงศักดิ์
"ช่อฟ้า" มักจะมีลักษณะหรือสัญลักษณ์ของสัตว์ในป่าหิมพานต์ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาพระสุเมรุหรือเขาไกรลาศ อันหมายถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตของบรรดาผู้วิเศษหรือผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้มีบุญ เพราะฉะนั้นการเอารูปแบบบางส่วนของสัตว์ในหิมพานต์มาประดับไว้ตามตัวอาคาร จึงเป็นสัญลักษณ์ให้ตัวอาคารนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ด้วยเหตุนี้ "ไม้ช่อฟ้า" จึงเป็นหนึ่งในมวลสารชั้นสูงที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีคุณวิเศษในทางค้ำจุนหนุนดวงชะตามิให้ตกต่ำ มีความก้าวหน้าในชีวิตการงาน นำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ และสง่าราศีสู่ผู้เป็นเจ้าของ
The Auspicious Apex Of Wood.
Phra Pidta Pakawambodee was carved from “Gable Apex Wood” of a famous temple which has age more than 200 years. That is the superb material for making holy amulet because it already pass through many auspicious ceremonies & blessings along 200 years. Moreover, it was placed at the highest point of the ubosot by the high class people so, people believe that Gable Apex Wood has holy power itself in case of supporting destiny, empower authority, and extend reputation.
น้ำมันสาริกาจับแขน
“น้ำมันสาริกาจับแขน” ชื่อนี้มาจากว่า ในช่วงที่พระอาจารย์โอได้เสกน้ำมันโหลนี้อยู่นั้น มีอยู่วันหนึ่งน้ำมันเดือดขึ้นมา ท่านเลยใช้มือปาดเอาน้ำมันที่เดือดล้นออกมาที่ถาดลงโหลดังเดิม ส่วนที่เปื้อนมือท่านก็เช็ดกับแขนท่านเอง พอพระอาจารย์โอออกมาจากห้องพิธีได้สักพัก ปรากฏว่ามีนกเอี้ยงสาริกาตัวหนึ่งบนมาเกาะแขนท่าน ก็เลยเป็นเหตุที่มาของชื่อ “น้ำมันสาริกาจับแขน”
น้ำมันสาริกาจับแขน เป็นการรวมกันของน้ำมันมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธานุภาพเน้นหนักไปทางเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์โชคลาภ เมตตามหานิยม และเสน่ห์ชั้นสูง น้ำมันแต่ละชนิดที่พระอาจารย์โอใช้เวลาในการตามหา จนได้มาครอบครองนั้น เรียกได้ว่าถ้าเอ่ยชื่อไปถึงกับสะเทือนหลายวงการได้เลย บอกได้แค่ว่าเป็นน้ำมันมนต์จากครูบาอาจารย์สมัยก่อน ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งนั้น บางชนิดก็ถูกเก็บไว้ในอุโบสถมาหลายทศวรรษ พระอาจารย์ท่านก็ยังไปตามนำมาจนได้ จนลูกศิษย์ที่ช่วยท่านตามน้ำมันอันวิเศษเหล่านั้นมา เคยเอ่ยปากถามท่านว่า ทำไมต้องไปตามหาน้ำมันเหล่านี้ ทั้งๆที่ท่านพระอาจารย์โอเองก็เป็นเจ้ากรมสีผึ้งและน้ำมันอยู่แล้ว
พระอาจารย์โอท่านบอกว่า ที่ฉันทำได้นั้น เทียบไม่ได้กับที่ครูบาอาจารย์ท่านได้สร้างไว้เลย ทั้งคุณค่าทางวัตถุและจิตใจ ของเขาดีจริง ไม่เช่นนั้นคงไม่ตรากตรำตามหาจนพลิกแผ่นดินแบบนี้หรอก เป็นน้ำมันสุดหวงแหนจริงๆ เยี่ยมยอดแบบที่พระอาจารย์โอท่านต้องวางโหลน้ำมันไว้ที่หัวนอนในกุฏิท่าน ว่ากันขนาดนั้น ท่านต้องมั่นใจในความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมันชุดนี้แบบเต็มเปี่ยมที่สุด
Bird On Arm Oil.
“Bird On Arm Oil” was named like this because during Phra Arjarn O was blessing this oil, the oil boiled up and overflowed out of the jar so, he used his hands to bring some oil back to the jar. He wiped his hands with his arm to clean the oil out but, when he walked out from the ceremony room for a while, there was a Salika bird flied to catch on Phra Arjarn O’s arm. Therefore, Phra Arjarn O named this oil as “Bird On Arm Oil”.
“Bird On Arm Oil” is the combination of special holy oils which their power emphasize on luxuriance, wealth, richness, and high-class charm. Each holy oil is really supreme until can make some amulet lovers felt shocked if they know where those oil come from. Some holy oils were made by well-known masters & some were hidden in the old temple for many decades. However, Phra Arjarn O could seek and get those holy oils in the legend successfully. One of Phra Arjarn O’s disciple who helped Phra Arjarn O find those holy oils asked Phra Arjarn O that “Why You Need To Find Those Holy Oils Even You Can Make Holy Oil By Yourself?”
Then, Phra Arjarn O answered his disciples that “Even I Can Make Holy Oil But, It Can Not Compare With Those Holy Oils That Were Made By The Skillful Master In The Former Times. Those Holy Oils Are So Mean To Me In Case Of Sentimental Value & Physical Value. If Those Oils Are Not Really Powerful, I Will Not Spent A Lot Of Time To Find.” Therefore, “Bird On Arm Oil” is the cherish oil that Phra Arjarn O keeps on the head of his bed because he has high confidence in the sacred power of this oil.
"พระปิดตาภควัม" แกะจาก "ไม้ยอดฟ้า" เป็นสุดยอดวัตถุมงคลในสายวิชาพระพิชัยสงครามโดยหากว่ากันตามตำราแล้ว ต้องเสกในน้ำมันจันทน์จนกว่า "พระจะลุกนั่ง" ถึงจะใช้ได้ สำหรับเรื่องนี้พระอาจารย์ลองทดสอบดูอยู่หลายครั้ง จีงสรุปทฤษฐีความเชื่อเรื่องเสกพระจนลุกนั่งได้ความว่า เนื่องจากองค์ประกอบในน้ำมันจันทน์มีมวลค่อนข้างไหวติง เมื่อองค์พระแกะขึ้นจากวัสดุเนื้อไม้ที่มีมวลเบา พอแช่บ่มไว้ในน้ำมันนานวันเข้า เนื้อไม้ก็จะดูดซึมน้ำมันเข้าไปเก็บไว้ในตัว พอถึงจุดหนึ่งก็เกิดการทำปฏิกริยากันทางกายภาพระหว่างน้ำมันและไม้ ทำให้องค์พระที่แช่ในน้ำมันสามารถลอยตัวขยับเขยื้อนเปลี่ยนตำแหน่งไปจากเดิมเหมือนอย่างในตำราว่าไว้ เรื่องเสกพระจนลุกนั่งเอง จึงเป็นเรื่องกึ่งวิทยาศาสตร์ กึ่งกุศโลบายในการฝึกเจริญสมาธิที่ครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆอาจจะตั้งใจแฝงไว้ให้เกจิรุ่นหลังต่อๆมาใช้เวลาทำสมาธิฝึกจิตภาวนา ผ่านการท่องพระคาถามหาเวทย์มนตราปลุกเสกพระเป็นเวลานานก็เป็นได้
Phra Arjarn O must blessed these amulets until they can flow and stand up in the oil.
เมื่อปลุกเสกเสร็จพิธี ก็ถึงเวลานำ "พระปิดตาภควัม” ที่ชุ่มฉ่ำถึงเนื้อในด้วย "น้ำมันสาริกาจับแขน" มาสะเด็ดน้ำมันเตรียมไว้สำหรับการอุดของวิเศษต่างๆไว้ใต้ฐาน
When all important blessing procedures were done, "Phra Pidta Pakawambodee” that already passed through osmosis reaction with "Bird On Arm Oil" were moved out from the bottle for containing some holy items inside.
พระธาตุของเอตทัคคะผู้เลิศด้วยลาภ
พระธาตุชุดนี้พระอาจารย์โอได้มาตอนท่านบวชเป็นเณร สมัยที่ท่านเดินทางไปกับหลวงพ่ออำพล ไปยังวัดหลวงพ่อโถม ในสมัยนั้นหลวงพ่อโถมท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย คนแถวนั้นจะเรียกท่านว่า "หลวงพ่อองค์เล็ก" โดยหลวงพ่อโถมจะมีกิจวัตรแปลกๆอยู่อย่างหนึ่งคือ ท่านจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ใช้เวลาส่วนใหญ่อยุ่แต่ในห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ด้านในมีเตียงมีแคร่พร้อมสรรพ เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์และญาติโยมคนสนิมว่า ถ้าท่านเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่ ห้ามเรียก ห้ามถามโดยเด็ดขาด ใครไปกวนท่านตอนที่ท่านอยู่ในห้องน้ำจะโดนด่าทุกรายไป
สมัยที่พระอาจารย์โอยังเป็นสามเณรอยู่ ท่านชื่นชอบ "หนุมาน" เป็นอย่างมาก พอถึงวันเสาร์ห้า เวลาเที่ยงคืน ท่านก็ไปดึงขาหลวงพ่อโถม บอกหลวงพ่อโถมว่าอยากได้หนุนมานสักองค์ หลวงพ่อโถมก็กึ่งเอ็ดกึ่งสอนว่า "โอ้ยหนุมงหนุมานอะไรกัน สมัยนี้อะไรๆมันก็ทันกันหมดแล้ว เหนียวแค่ไหนก็ทนปืนไม่ได้หรอก ปืนทุกวันนี้มันแรงกว่าเมื่อก่อนเยอะ 11มม. เดี๋ยวนี้มันแรงกว่าปืนแก๊ปอีก หาของทางเมตตาดีกว่า"ถึงกระนั้น พระอาจารย์โอก็ยังไม่ลดละความตั้งใจ ไปขอหนุมานกับหลวงพ่อโถมแบบนี้3เที่ยว จนแกยอมทำให้ พระอาจารย์โอก็ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะหนุมานของหลวงพ่อโถมถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลือในสมัยนั้น
วันหนึ่งมีพิธีสำคัญในวัดหลวงพ่อโถม ทั้งพระทั้งลูกศิษย์ลูกหามากันเยอะแน่นวัน ในพิธีนั้นได้มีการสวดอัญเชิญพระธาตุภายในอุโบสถ โดยตลอดพิธีต้องสวดกันไม่ให้เสียงสวดขาดช่วง พอเวลาผ่านไปก็มีพระบางองค์เริ่มจะสวดไม่ไหว จังหวะเดียวกับที่พระอาจารย์โอก็นำน้ำชาไปถวายหลวงพ่อโถม หลวงพ่อโถมเลยยื่นกระดาษบทสวดให้ แล้วบอกว่า "เณรสวดต่อแทนพระองค์นั้นที" พอพระอาจารย์โอสวดต่อไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าในอุโบสถเกิดมีวัตถุบางอย่างร่วงลงมา ใส่ตักของพระอาจารย์โอเม็ดหนึ่ง หลวงพ่อโถมเห็นก็บอกให้พระอาจารย์โอส่งพระธาตุเม็ดนั้นมา แต่พระอาจารย์โอก็ยืนกรานจะเก็บไว้ตามประสาสามเณรที่พึ่งได้ของแปลก พระธาตุเม็ดนั้นก็อยู่กับพระอาจารย์โอเรื่อยมา แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ว่าพระธาตุสามารถงอกใหญ่ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นเรื่่อยๆ
ซึ่งพระธาตุชุดนี้เชื่อว่าเป็น "พระธาตุสิวลี" โดยมีการทดสอบตามความเชื่อคือ ให้นำพระธาตุไปใส่ไว้ในดอกไม้ชนิดหนึ่ง แล้วเอาไปลอยในบาตรที่มีตัวเลขเขียนไว้ตามขอบบาตร พอพระธาตุลอยไปชนเลขไหน ให้จดเลขนั้นไปซื้อ ถ้าถูกรางวัลแสดงว่าพระธาตุชนิดนั้นคือ "พระธาตุสิวลี" ผู้ใดมีไว้บูชาจะไม่รู้จักกับคำว่าไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สำเร็จเลย
Relics Of “Wealthy Buddhist Saint”.
This is Sivali’s relics that Phra Arjarn O got when he was a Buddhist novice. Amazingly, the amount of this relic can be increased by itself. There is a belief that who has Sivali’s relics will never face with shortage, inefficacy, and failure.
“น้ำมันพญาราชสีห์ทองคำ” เป็นการนำ “ขนสิงโต” มาแช่กับ “น้ำมันเก้ากลิ่น” มีพุทธคุณทางด้านเจริญรุ่งเรืองและเสริมอำนาจวาสนาบารมี ตามบทพระคาถาที่ว่า “เดชะเดชะ พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพญาราชสีห์ทองคำ มีสุรเสียงก้องกังวาล เป็นตบะอำนาจให้คนคร้ามเกรง มีรัศมีสีทองให้คนลุ่มหลงและหลงใหลฉันใด ขอเดชเดชะนั้นจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”
โดยพระอาจารย์โอได้นำ “ขนสิงโต” มาตัดแบ่งเป็นขนาดเล็กๆเพื่อบรรจุไว้ภายในองค์ "พระปิดตาภควัม” อีกด้วย
“Golden Lion Oil” It is the combination between “Lion’s Hair” and “9 Smells Oil”. Very good for opulence, authority and fortune like as the golden lion which is the avatar of Buddha.
Phra Arjarn O took “Lion’s Hair” to cut and separate to be tiny piece before filled into "Phra Pidta Pakawambodee”.
ภาพขั้นตอนการบรรจุของมงคลไว้ในองค์พระปิดตาภควัม มีพระธาตุสิวลี, ขนสิงโต และผงวิเศษตามตำราพิชัยสงคราม
The procedure of filling holy items inside “Phra Pidta Pakawambodee”. Those holy items are Sivali’s relics, Lion’s hair and holy powder follows Phra Pichai Songkram scirpture.
พระปิดตาภควัม เป็นเลิศที่สุดทางมหาโชค, มหาลาภ, และเมตตามหานิยม
พระอนุรุทธ เป็นเลิศทางอุดมสมบูรณ์พูนสุข ผู้ใดบูชาจะไม่รู้จักคำว่า “ไม่มี”
“Phra Pidta Pakawambodee”, the great amulet of wealth & high-class charm.
“Phra Anuruddha”, the great amulet of abundance & happiness.