พระสิวลีให้พรนางกวัก, พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์

"ขอท่านจงได้รับพรดั่งนางกวักได้รับจากพระสีวลี" 

อภิญญาภินิหาร สองอิทธิฤทธิ์ เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ทวีคูณ

คุณอรหันต์แห่ง "พระสีวลี" และคุณเทพแห่ง "นางกวัก"

เป็นสุดยอดวัตถุมงคลทางโภคทรัพย์ จำลองขึ้นตามภาพเหตุการณ์จากชีวประวัติของพระสีวลีเถระตอนหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก แสดงถึงช่วงเวลาที่ "นางสุภาวดี(นางกวัก)" ได้รับการประสิทธิ์พรจากพระสีวลี ได้กลายเป็นอภิมหาสตรีเศรษฐีที่ร่ำรวยมั่งคั่งที่สุดในยุคนั้น ว่ากันว่าปริมาณทรัพย์สินของนางมีมากมายมหาศาล เทียบได้กับมหาเศรษฐีในตำนานอย่าง "ธนัญชัยเศรษฐี" บิดาของนางวิสาขามหาอุบาสิกาแห่งแคว้นโกศลในยุคนั้นเลยทีเดียว

พระสีวลีได้ให้พรนางสุภาวดีว่า "จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สินเงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมา สมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด” ซึ่งหลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพร ก็เป็นประหนึ่งผู้วิเศษ เพราะไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด ที่แห่งนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คน เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซื้อมาขายไปอย่างน่าประหลาด ถึงขนาดเหล่าพ่อค้าวานิชในสมัยนั้นต่างต้องขนนำเอาสินค้าของตน มาขอร่วมขบวนกองเกวียนสินค้าของนางสุภาวดีและบิดา เพราะมีเท่าไหร่ก็ขายหมดไม่มีเหลือติดเกวียน

ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพรอันประเสริฐ ที่นางสุภาวดีได้รับจากพระสีวลีนั้น ยากนักจะอุปมา แม้เป็นเพียงรูปลักษณ์ตัวแทนนางสุภาวดี ที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า "นางกวัก" ก็ยังได้รับอานิสงค์แห่งพรวิเศษเฉกเช่น 2,500 ปีก่อน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน "นางกวัก" จึงเป็นเครื่องรางของขลังที่พ่อค้าแม่ขายและผู้ถวิลหาความมั่งคั่งต่างมีไว้บูชา เพื่อนำพาเงินทองโชคลาภความร่ำรวยเข้ามาสู่ตน

จริงๆแล้ว "พระสิวลีให้พรนางกวักนี้" เป็นวิชาที่ท่านพระอาจารย์อยากสร้างมากมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เนื่องด้วยสมัยก่อนวาสนาบารมียังไม่ถึงหรือคงเพราะยังไม่ถึงเวลา จึงพึ่งสามารถสร้างได้ในปี 2564 นี้ เพราะนอกจากต้องใช้ดอกไม้สามสิ่งคือดอกตะไคร้ ดอกวาสนา และดอกไผ่ที่ว่าหายากแล้ว ยังมีดอกไม้อีกอย่างที่ต้องให้วาสนาบารมีพรั่งพร้อมเท่านั้นจึงจะได้ คือ "บัวผุด" อันบัวผุดนี้จะเกิดขึ้นเอง ที่หิ้งพระหรือบริเวณที่บูชาพระ ในตำราของ "ปู่บัว บัวทุม" ท่านว่าจะเกิดในกองดอกบัวพระมหาปทุมแห้งที่วางบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

"ดอกบัวพระมหาปทุม" นี้คือในการฝึกฝนวิชาลบผงทั้งห้าพระคัมภีร์ ในทุกพระคัมภีร์จะมีห้ององค์พระมหาปทุมทั้งสิ้น ผู้ที่เล่าเรียนมาถึงห้องพระมหาปทุมนี้จะยกยันต์ลงในดอกบัว และเอาดอกบัวไปลอยในขันน้ำมนต์ แล้วจะเจริญภาวนาเอาน้ำมนต์นั้นชุบตัวอาบกินเพื่อให้เกิดปัญญาอิทธิต่างๆ เพื่อให้เรียนขั้นห้องต่อๆไปได้อย่างแตกฉาน และพอเสร็จในการชุบตัวแต่ละครั้ง หลังจากนั้นจึงนำดอกบัวถวายองค์พระปฏิมา

ในสมัยที่ท่านพระอาจารย์เรียนทำผงต่างๆ ท่านว่าท่านเป็นคนสมองช้า เรียนอะไรทำได้ช้า จึงทำน้ำมนต์พระมหาปทุมนี้อาบชุบตัวทุกเช้าเย็น กว่าจะผ่านแต่ละห้องนั้นใช้เวลาแรมปี จำนวน "ดอกบัวพระมหาปทุม" จึงมีมากตามไปด้วย ยิ่งในห้องที่พิสดาร ท่านพระอาจารย์ว่าทำน้ำมนต์พระปทุมอาบทั้งวัน กว่าจะผ่านได้แต่ละห้องท่านว่า มือเท้าซืดกันเลยทีเดียว

นานผ่านไปหลายปีจนลืม กองดอกบัวมีจำนวนที่มากขึ้นตามคัมภีร์ที่เรียน ราวปี48 ในช่วงเข้าพรรษา ตอนนั้นยังอยู่วัดเก่ากุฏิพระเจ้าห้าพระองค์ และก็เกิดมี "ดอกบัวผุด" ขึ้นในกองดอกบัวนั้น คนเห็นเหตุการณ์มีหลายคน เสียดายที่ยุคนั้นมือถือที่ถ่ายรูปได้ยังไม่ค่อยมีแพร่หลาย จึงไม่ได้มีการถ่ายรูปไว้ ท่านจำได้ว่าสมัยนั้นใช้พวกโนเกียทรงคล้ายๆ3310กันอยู่เลย พระอาจารย์จึงเก็บดอกบัวผุด และดอกบัวพระมหาปทุมเหล่านั้นไว้อย่างดีเสมอมา

เวลาผ่านไปดอกบัวที่เก็บไว้เกิดการผุพังไปก็มาก พระอาจารย์จึงได้พลีบดเป็นผงสะสมไว้ ท่านเรียกว่า "ผงบัวผุดบัวพัน" ตามจำนวนคาดคะเนว่าดอกบัวที่นำมาบดน่าจะเกินพันดอก ทั้งยังได้ดอกไม้หายากทั้งสามมาอีกจำนวนมากในปี2563 พระอาจารย์จึงมีดำริให้ช่างแกะพิมพ์พระสีวลีให้พรนางกวัก มีซุ้มดอกไผ่ ข้างนางกวักมีต้นวาสนาออกดอก ข้างพระสีวลีมีต้นตะไคร้ออกดอก ด้านหน้าเบื้องล่างมีดอกบัวผุดออกมาจากกองแก้วแหวนเงินทอง เพื่อเป็นการระรึกนึกถึงคุณพระสีวลีและนางกวัก ตลอดจนคุณของดอกไม้วิเศษหายาก จึงได้จำลองรูปมาลงไว้ครบครัน

ด้านหลังจารด้วย "พระยันต์โลกวิญญาณ" อาทิเช่น องค์โภคะโภคังโลกบาล, องค์พระสามพระองค์ และองค์พระไสยาสน์กลับ พระยันต์ชุดนี้พระอาจารย์ได้มาในตอนฝึกวิชาพรหมศาสตร์ คล้ายๆกับโยคะนิทรา คือจะมีคุรุคล้ายๆกับเทพมาบอกสอนในนิมิต ในสมัยนั้นท่านว่าเรียนกันหลายคน แต่เนื่องด้วยท่านสมองช้า จึงได้พระยันต์มาไม่มากเท่าคนอื่น ที่ได้กันหลายสิบถึงร้อยยันต์ก็มี แต่ท่านก็มั่นในวิชาที่ได้มา และก็ฝึกฝนใช้อยู่ประจำไม่ขาด บังเกิดอิทธิปาฏิหารย์จนมั่นใจ จึงนำมาใช้จาร "พระสีวลีให้พรนางกวัก" โดยท่านจะทำการจารต่อเบื้องหน้าครูเท่านั้น อาจจะมีหลายพระยันต์ต่างกันไปแต่อิทธิคุณนั้นครบถ้วนกระบวนความ สมกับเป็นของหายากชุดสร้างยาก

จัดสร้างทั้งหมด2เนื้อ:

1. เนื้อดินเผา, บูชา 300 บาท

2. เนื้อผง, บูชา 300 บาท

ปล.ทั้ง2เนื้อมีผงมูลกัจจายน์, ดอกตะไคร้, ดอกวาสนา, ดอกไผ่, ดิน7โป่ง, ดิน7ท่า, ดิน7คาบสมุทร, ดิน7นาเศรษฐี, ดิน7ตลาด, ดิน7นคร, ดิน7ยอดเขา และผงบัวพันบัวผุด เป็นมวลสาร

Sivali Bless Nang Kwak by Phra Arjarn O, Phetchabun.

"May you be blessed as Nang Kwak received from Sivali".

Double supernatural powerful powers which is so magical and sacred.

Arahant's power of "Phra Sivali" and Goddess's power of "Nang Kwak".

This is the ultimate sacred amulet of wealth. It is modeled according to the amazing events from the biography of Phra Sivali that was recorded in the Tripitaka. The image represents the time that "Nang Supawadee (Nang Kwak)" received blessings from Phra Sivali to become the wealthiest billionaire superwoman of that era. It is said that the amount of her wealth reaches several hundreds million comparable to the legendary billionaire "Thananchai", the father of Visakha of Kosol.

Phra Sivali blessed Nang Supawadee that "Be prosperous with wealth through trade, money flows as you wish, too.” After Nang Supawadee was blessed, she was like a magician because no matter where she was, that place will be full of people spending money and transaction, buying and selling would be always around her. Even the merchants in those days had to carry their goods to join the procession of Nang Supavadee and her father's wagons. Because as much as they had the goods, they were sold out, and there were no leftovers on the wagon.

The holiness of the great blessing that Nang Supawadee received from Phra Sivali hard to parable. Even if it's just the appearance of a representative of Nang Supawadee which most people call "Nang Kwak" still receives the magic of blessings like 2,500 years ago. From the past to the present, "Nang Kwak" still be the amulet that merchants and wealth seekers are worshiping to bring money, fortune, wealth come to them.

In fact, "Sivali Bless Nang Kwak" is a subject that Phra Arjarn O wanted to create for a long time but, because in the past, his ascendancy was not reach the qualification yet or probably because it was not the right time to do. That's why Phra Arjarn O can make this amulet finished in this year 2021. The process to make "Sivali Bless Nang Kwak" not only requiring Lemongrass Flower, Dracaena Fragrans Flower, and Bamboo Flower but, there is another flower that will blossom for the person who has complete ascendancy only, which is "Bua Phut (Divine Lotus)". This Bua Phut will happen spontaneously at the shelf of Buddha images or the area where the Buddha image is worshiped. In the textbook of "Grandpa Bua Buatoom", it is said that the divine lotus would be born in a pile of dried "Maha Pathum Lotus" that were placed to worship the Lord Buddha.

"Maha Pathum Lotus (The Great Lotus)" is in the practice of erasing holy chalkboard powder from the five scriptures. In every scripture there is a room of Phra Maha Pathum Buddha image. Those who learn to come to this room will put Phra Maha Pathum Buddha image into the lotus flower. and floated lotus flowers in a bowl of holy water Then he will meditate on the holy water to be "Maha Pathum Holy Water" to rejuvenate himself by drinking and bathing in order to bring about various powers to be able to study in the next room efficiently and when finished in each rejuvenation. After that, those lotus flowers were presented to the Buddha statue.

During the time when Phra Arjarn O learned to make various holy powders, he said that he was a slow brain because he would do some amulets slower than others so, he made this "Maha Pathum Holy Water" to bathe his body every morning and evening. It takes a year to pass through each room, so there are a lot of "Maha Pathum Lotus" as well. Especially in a strange room, Phra Arjarn O said that he bathed holy water all day until his hands and feet are completely gloomy.

After so many years passed, the number of lotus flowers increased according to the scriptures he studied. Around year 2005 during the Buddhist Lent period, At that time he was still in the old temple of the Five Lord Buddha's cloister, "The Divine Lotus" was born in the pile of dried lotus flowers. There were many people who witnessed the incident. It's a pity that in those days, mobile phones that could take pictures were not widely available. Therefore, no photographs were taken, he remembers that at that time, they were using Nokia mobile phone that has design same 3310. Phra Arjarn O gathered those lotus flowers and the divine lotus in the well preserved place.

Over time, the lotus flowers that had been kept decayed a lot. Therefore, Phra Arjarn O sacrificed to grind it into powder, he called it "Thousand Divine Lotus Powder" according to the speculation that the number of lotus flowers that were crushed would be more than a thousand flowers. Due to Phra Arjarn O received many more rare flowers in 2020 then he had an idea for a craftsman to engrave the prototype of "Sivali Bless Nang Kwak" with a bamboo arch, beside Nang Kwak, there is a flowering Dracaena Fragrans tree. Beside Phra Sivali, there is a flowering lemongrass tree. In front below, the divine lotus merged from a pile of gold treasure. In order to remember the benevolence of Phra Sivali, Nang Kwak and the of rare magic flowers as well. It is all in one completly perfect design..

Behind of this amulet has the hand written "Alphabets Of Spiritual World" such as Keepers Of The World's Wealthiness (Bhokha Bhokhang Lokban), Three Buddhas and Reverse Reclining Buddha. This set of alphabets were obtained by Phra Arjarn O during the practice of "Brahma Science" similar to yoga nidra. That is, there will be a guru similar to a god to teach in visions. At that time, he said that many people studied but, because he had slow brain so, the alphabets he got was not as many as others. Some practitioners got alphabets of spiritual world about tens to hundreds. Anyway, Phra Arjarn O was confident in the subject that he had acquired from the spiritual world and he practiced using it regularly until he experienced in the powerful miracle of them. Therefore, he used "Alphabets Of Spiritual World" to write on the back of "Sivali Bless Nang Kwak" in front of his teacher's images. There may be many different alphabets but, the power is not different. This is a truly rare item and very hard to build.

There are 2 types made:

Type.1: Harden Clay Material. Price 300 thb.

Type.2: Powder Material. Price 300 thb.

P.S. Both types have Mula Kaccayana Powder, Lemongrass Flowers, Dracaena Fragrans Flowers, Bamboo Flowers, 7 salt marshs soil, 7 piers soil, 7 peninsulas soil, 7 wealthy fields soil, 7 markets soil, 7 cities soil, 7 top of mountains soil and Thousand Divine Lotus Powder as materials.

ระยะเวลาการขาย : จนกว่าของจะหมด